ติวเตอร์ที่มีเทคนิคดี ๆ ซ่อนไว้ในหัว อาจแค่ต้องการ “ที่” สำหรับปล่อยของ

เคยมั้ยครับที่รู้ตัวว่ามีความรู้ดีๆ อยู่เต็มหัว แต่กลับไม่รู้ว่าจะเอาออกมาใช้อย่างไรดี? ผมเชื่อว่าติวเตอร์หลายคนเจอเรื่องแบบนี้แน่นอนครับ โดยเฉพาะคนที่เริ่มสอนมาสักพักแล้วมีเทคนิคเฉพาะตัวที่น่าสนใจ แต่กลับยังไม่เคยลองแบ่งปันออกมาในรูปแบบอื่นเลยนอกจากการสอนในคลาสหรือในห้องเรียน น่าเสียดายนะครับ เพราะความรู้นั้นสามารถเป็นมากกว่าแค่สิ่งที่อยู่ในสมุดหรือสไลด์หน้าชั้นเรียนครับ

สิ่งที่ผมอยากเล่าให้ฟังก็คือ… ติวเตอร์รุ่นใหม่ต้องกล้าปล่อยของครับ การเก็บความรู้ไว้กับตัวคนเดียวเหมือนการวางทองคำไว้ใต้หมอนโดยไม่เอาไปใช้ประโยชน์ ความรู้ที่ไม่ถูกปล่อยออกมาก็เหมือนความเก่งที่ไม่มีคนรู้จัก ไม่ได้ช่วยเพิ่มโอกาสใหม่ๆ ให้กับตัวเราเลยนะครับ ผมว่าการเริ่มต้นปล่อยของ คือการให้โอกาสตัวเองได้พัฒนา และเปิดทางสู่โลกของคอร์สออนไลน์หรือเว็บไซต์เรียนออนไลน์ที่รอเราอยู่

เพราะทุกวันนี้ การที่เรามีแพลตฟอร์มสื่อสารของตัวเองมันคือแต้มต่อครับ ถ้าคุณเป็นติวเตอร์ที่มีเทคนิคการสอนดีๆ อยู่ในหัว ลองคิดดูว่าถ้าเราเขียนมันออกมาเป็นบทความ แบ่งปันในรูปแบบคลิป หรือเปิดเว็บบล็อกของตัวเอง เราจะสามารถเข้าถึงคนได้อีกมากมายเลยครับ แล้วที่สำคัญไปกว่านั้น คือมันจะกลายเป็นจุดเริ่มต้นของการสร้างแบรนด์ในสายอาชีพที่เรารักนะครับ

อะไรคือ “ที่ปล่อยของ” ของติวเตอร์? และทำไมมันสำคัญกว่าที่คิด

ผมจะเล่าให้ฟังแบบนี้ครับ ถ้าคุณมีของดีอยู่กับตัว แต่ไม่มีที่ปล่อยของเลย คนอื่นจะรู้ได้ยังไงว่าคุณเก่งแค่ไหน? ที่ปล่อยของในยุคนี้ไม่ใช่แค่บนกระดานหรือหน้าชั้นเรียนอีกต่อไปแล้วครับ แต่มันคือโลกออนไลน์ที่เปิดกว้างให้คุณแสดงความสามารถได้ตลอดเวลา ที่สำคัญกว่านั้นคือมันไม่จำเป็นต้องแพงหรือซับซ้อนด้วยครับ ขอแค่คุณมีพื้นที่ออนไลน์เล็กๆ ของตัวเอง อย่างเช่นเว็บไซต์หรือเว็บบล็อกส่วนตัว ก็ถือว่าเริ่มต้นได้ดีมากแล้วนะครับ

สิ่งที่เราเรียกว่า “ที่ปล่อยของ” จริงๆ แล้วมันคือช่องทางที่คนอื่นจะเข้ามารู้จักเรา ทั้งจากการเสิร์ชหาใน Google หรือผ่านการแชร์บทความจากคนอื่นๆ ยิ่งเรามีเนื้อหาดีๆ บนเว็บไซต์ของตัวเองมากเท่าไหร่ โอกาสที่คนจะมองว่าเราคือผู้เชี่ยวชาญตัวจริงในสายติวเตอร์ก็ยิ่งเพิ่มขึ้นครับ เพราะเว็บไซต์ที่เต็มไปด้วยบทความหรือคอนเทนต์ที่สื่อถึงความรู้ของเรา มันคือหลักฐานชิ้นใหญ่ที่แสดงให้เห็นถึงความสามารถครับ

ลองนึกภาพคุณเป็นนักเรียนหรือผู้ปกครองที่กำลังมองหาติวเตอร์ให้ลูก ถ้าพบเว็บไซต์ที่เขียนบทความดีๆ ช่วยอธิบายปัญหาและแนวทางแก้ไขได้อย่างเข้าใจง่าย คนจะรู้สึกว่าคุณน่าเชื่อถือขึ้นมาโดยไม่ต้องพูดอะไรเลยครับ และนี่แหละครับคือเหตุผลว่าทำไม “ที่ปล่อยของ” ถึงสำคัญกว่าที่เราคิด

บล็อกก็ได้ เว็บไซต์ก็ดี: ติวเตอร์ควรมีทั้งสองเพื่อปล่อยของได้ครบทุกมุม

จริงๆ แล้วบล็อกกับเว็บไซต์ไม่ใช่สิ่งเดียวกันนะครับ แต่กลับเป็นสิ่งที่ช่วยส่งเสริมกันได้ดีมากในโลกของติวเตอร์ยุคใหม่ หลายคนอาจยังไม่รู้ว่า “เว็บไซต์” คือพื้นที่หลักที่ใช้สร้างแบรนด์และระบบของเรา เช่น หน้าแนะนำตัว คอร์สออนไลน์ หรือระบบจองเวลาเรียน ส่วน “บล็อก” คือสมุดบันทึกความรู้ ที่เราค่อยๆ เติมเนื้อหาที่เป็นประโยชน์ลงไปในนั้นครับ

ผมอยากแนะนำเลยครับว่าถ้าเป็นไปได้ ควรมีทั้งสองอย่าง เพราะเว็บไซต์จะช่วยให้คุณดูน่าเชื่อถือ มีตัวตนชัดเจน ส่วนบล็อกจะเป็นเครื่องมือที่เอาไว้ปล่อยของแบบต่อเนื่อง ทำให้คนที่เข้ามาอ่านเห็นว่าคุณรู้ลึก รู้จริง และมีสไตล์ของตัวเอง บางครั้งบทความจากบล็อกที่เขียนด้วยใจ อาจกลายเป็นสิ่งที่ทำให้คนตัดสินใจเรียนกับคุณเลยก็ได้นะครับ

อย่ามองว่ามีอันใดอันหนึ่งพอแล้วครับ เพราะถ้าเรามีเฉพาะเว็บไซต์แต่ไม่มีบทความ ก็เหมือนบ้านที่ไม่มีของตกแต่งอะไรเลย แต่ถ้ามีแค่บล็อกแต่ไม่มีระบบเว็บที่เป็นทางการเลย ก็อาจขาดความน่าเชื่อถือเชิงธุรกิจไปบ้าง เพราะงั้น การมีทั้งบล็อกและเว็บไซต์ร่วมกันจะทำให้คุณมี “พื้นที่ปล่อยของ” ครบทุกมุมมองเลยครับ

เปลี่ยนทักษะการสอนให้กลายเป็น “คอนเทนต์มีคุณค่า” บนเว็บไซต์ตัวเอง

นี่แหละครับจุดเปลี่ยนที่น่าสนใจที่สุดของติวเตอร์ยุคนี้ เพราะสิ่งที่เราสอนอยู่ทุกวัน ไม่ว่าจะเป็นเทคนิคการจำสูตรคณิต เทคนิคการทำข้อสอบภาษาอังกฤษ หรือวิธีทำให้นักเรียนเข้าใจเรื่องยากๆ กลายเป็นเรื่องสนุก ทั้งหมดนี้สามารถเปลี่ยนให้กลายเป็นคอนเทนต์ได้หมดเลยนะครับ

หลายคนยังไม่รู้ว่าจะเริ่มยังไงดี ผมอยากชวนให้เริ่มจากสิ่งที่คุณถนัดและเคยสอนมาก่อน แล้วเอามาถ่ายทอดเป็นบทความสั้นๆ หรือวิดีโอสั้นๆ ก็ได้ครับ ไม่ต้องเริ่มจากอะไรยิ่งใหญ่ ขอแค่เริ่มต้น แล้วเราจะเห็นว่าความรู้ที่เรามีสามารถดึงดูดคนที่กำลังต้องการสิ่งเหล่านี้จริงๆ ได้แบบไม่รู้ตัวเลยครับ

คอนเทนต์ที่ดีไม่ใช่คอนเทนต์ที่หรูหรา แต่คือสิ่งที่มีประโยชน์ต่อคนดูหรือคนอ่านจริงๆ และเมื่อเราสร้างมันไว้บนเว็บไซต์ของเรา มันจะกลายเป็นสินทรัพย์ดิจิทัลที่อยู่กับเราตลอดไป ยิ่งมีมากก็ยิ่งสะสมคุณค่าให้กับแบรนด์ของเราครับ ถ้าวันนี้คุณยังไม่มีคอนเทนต์แรก ลองหยิบความรู้ที่คุณสอนทุกวันนั่นแหละ มาเริ่มต้นเลยครับ ไม่ต้องรอให้พร้อม เพราะความพร้อมเกิดจากการเริ่มต้นนะครับ

เว็บไซต์สำหรับติวเตอร์ไม่ใช่แค่พื้นที่แชร์ความรู้ แต่คือช่องทางสร้างแบรนด์

หลายคนอาจมองว่าเว็บไซต์มีไว้แค่แชร์บทความหรือวางคอร์สเรียนเท่านั้น แต่จริงๆ แล้วเว็บไซต์มันมากกว่านั้นครับ โดยเฉพาะสำหรับติวเตอร์ที่อยากมีชื่อเสียง อยากให้คนจดจำ หรือแม้กระทั่งอยากสร้างความมั่นคงในอาชีพในระยะยาว เว็บไซต์คือศูนย์รวมตัวตนและความเชี่ยวชาญที่เราสื่อออกไปสู่โลกภายนอกได้อย่างชัดเจนครับ

ผมอยากให้มองแบบนี้นะครับ เว็บไซต์เปรียบเสมือน “บ้าน” ของเราบนโลกออนไลน์ เป็นบ้านที่เปิดต้อนรับคนแปลกหน้าให้กลายเป็นคนรู้จัก แล้วจากนั้นก็กลายเป็นลูกค้า และบางครั้งอาจกลายเป็นแฟนคลับเลยก็ได้ครับ ถ้าเรารู้จักออกแบบเว็บไซต์ให้สะท้อนความเป็นตัวเอง เช่น การใช้สีที่ชอบ รูปแบบการเขียนที่เป็นเอกลักษณ์ หรือการวางคอร์สเรียนให้ดูง่าย เว็บไซต์จะกลายเป็นเครื่องมือสร้างแบรนด์ที่ทรงพลังแบบไม่ต้องลงทุนแพงเลยนะครับ

อย่ามองว่าเว็บไซต์เป็นแค่ที่วางเนื้อหาครับ ให้มองว่าเป็นจุดเริ่มต้นของการวางแผนธุรกิจสำหรับติวเตอร์เลยก็ว่าได้ เพราะถ้าคุณอยากต่อยอดเป็นโค้ช ทำคอร์สออนไลน์ หรือรับงานสอนกลุ่ม เว็บไซต์จะช่วยคุณปูพื้นฐานทุกอย่างไว้หมดแล้วครับ ขอแค่คุณเริ่มจากการมีพื้นที่ของตัวเองก่อน แล้วค่อยๆ ใส่ตัวตนลงไป มันจะเป็นช่องทางที่สร้างโอกาสให้คุณได้มากกว่าที่คิดจริงๆ ครับ

เริ่มต้นสร้างเว็บไซต์ติวเตอร์ ต้องรู้อะไรบ้าง? สำหรับคนไม่เก่งเทคโนโลยี

ในมุมของติวเตอร์หลายคนที่ไม่ได้มีพื้นฐานด้านเทคโนโลยี การเริ่มต้น สร้างเว็บไซต์ อาจดูเป็นเรื่องยากหรือเป็นเรื่องไกลตัวมากนะครับ แต่จริงๆ แล้วในปัจจุบัน ทุกอย่างง่ายขึ้นกว่าที่คิดมาก โดยเฉพาะเมื่อคุณมีแนวทางชัดเจนว่า “ต้องรู้เรื่องอะไรบ้าง” ก่อนจะเริ่มต้นทำเว็บไซต์ของตัวเอง ไม่ว่าคุณจะใช้เว็บไซต์เพื่อแค่แชร์บทความ แนะนำตัว หรือไปจนถึงการเปิดขาย คอร์สออนไลน์ ก็สามารถทำได้ทั้งนั้นครับ ลองดูเช็คลิสต์ข้างล่างนี้ ที่ผมเรียบเรียงมาให้แล้วตามลำดับของสิ่งที่ควรพิจารณาก่อนเริ่มต้นทำเว็บไซต์แรกของคุณครับ

• เลือกประเภทของเว็บไซต์ที่คุณต้องการ เช่น เว็บสำหรับแนะนำตัว เว็บบล็อกความรู้ หรือ เว็บไซต์เรียนออนไลน์ พร้อมระบบคอร์สและการชำระเงิน
• วางเป้าหมายหลักของเว็บไซต์ (Website Objective) เพื่อให้รู้ว่าคุณจะสร้างเว็บเพื่อแชร์ความรู้ สร้างแบรนด์ หรือ ขายความรู้ เป็นรายได้หลัก
• เลือกโครงสร้างเว็บไซต์ (Website Structure) ให้เหมาะกับกลุ่มเป้าหมาย เช่น มีหน้าแนะนำตัว, คอร์สเรียน, เว็บบล็อก, หน้าคำถามที่พบบ่อย ฯลฯ
• วางแผนคอนเทนต์เบื้องต้น (Content Planning) โดยเริ่มจากบทความง่ายๆ อย่าง “แนะนำตัว”, “5 เทคนิคการจำสูตร”, หรือ “สรุปเนื้อหาเรื่องที่นักเรียนชอบถามบ่อย”
• ทำความเข้าใจกับ CMS ที่เหมาะกับคุณ เช่น WordPress ซึ่งสามารถเริ่มต้นได้โดยไม่ต้องเขียนโค้ด และเหมาะกับการสร้าง คอร์สติวเตอร์ออนไลน์
• เตรียมภาพและเนื้อหาพื้นฐาน เช่น รูปโปรไฟล์, คำอธิบายตัวเอง, สโลแกน หรือภาพประกอบบทเรียนที่คุณมีอยู่แล้ว
• เข้าใจพื้นฐาน SEO (Search Engine Optimization) เช่น การตั้งชื่อหัวข้อ, การเขียน Meta Description, และการใช้คีย์เวิร์ด เช่น ติวเตอร์, คอร์สออนไลน์ อย่างเหมาะสม
• เลือกธีมที่ดูเป็นมืออาชีพ และออกแบบ UX/UI (User Experience / User Interface) ให้อ่านง่าย ไม่รกตา และเหมาะกับการเรียนรู้
• ตั้งค่าระบบพื้นฐานของเว็บไซต์ เช่น การเชื่อมต่ออีเมล, ตั้งค่าความปลอดภัย (Security Plugins), และตั้งค่า Mobile Responsive ให้รองรับทุกอุปกรณ์
• ทดลองใช้งานเองก่อนปล่อยจริง ลองกดทุกปุ่ม ลองดูบนมือถือ และขอเพื่อนหรือคนรอบตัวลองใช้งานเพื่อรับฟีดแบ็กก่อนเปิดเว็บไซต์อย่างเป็นทางการ

สิ่งสำคัญที่สุดคือ อย่ากลัวครับ เพราะเว็บไซต์ไม่ใช่ของที่ต้องเสร็จตั้งแต่วันแรก แต่มันคือพื้นที่ที่คุณจะค่อยๆ เติมเต็มมันได้ในทุกๆ วัน ขอเพียงแค่คุณกล้าเริ่ม และเข้าใจภาพรวมของสิ่งที่ต้องเตรียมก่อน คุณก็สามารถมีเว็บไซต์เป็นของตัวเองได้โดยไม่ต้องง้อใครเลยนะครับ ผมเชื่อว่าติวเตอร์อย่างคุณพร้อมจะเปลี่ยนความรู้ที่มีให้กลายเป็นช่องทางใหม่ๆ ที่มั่นคงและน่าภูมิใจครับ

ไม่ใช่แค่สอนเก่ง แต่ต้องมีที่ให้คนค้นเจอ: SEO & ติวเตอร์ควรจับมือกัน

ผมอยากเล่าให้ฟังว่า ถ้าคุณสอนเก่งแต่ไม่มีคนรู้จัก ความเก่งนั้นก็เหมือนแสงไฟที่ถูกปิดผ้าคลุมไว้นะครับ นี่แหละครับที่ทำให้คำว่า SEO (Search Engine Optimization) กลายเป็นสิ่งสำคัญมากๆ สำหรับติวเตอร์ เพราะมันคือวิธีที่จะช่วยให้บทความหรือคอร์สของคุณถูกค้นเจอใน Google เมื่อมีคนพิมพ์หาคำว่า “ติวคณิต ป.6” หรือ “คอร์สภาษาอังกฤษสำหรับสอบเข้ามหาวิทยาลัย” แล้วเว็บของคุณโผล่ขึ้นมา นั่นคือจุดเริ่มต้นของโอกาสครับ

หลายคนอาจมองว่า SEO ฟังดูไกลตัว แต่ความจริงแล้วมันคือการเขียนบทความหรือคำอธิบายต่างๆ บนเว็บไซต์ให้เข้าใจง่าย ตรงกับสิ่งที่คนเสิร์ชหา และมีความต่อเนื่อง เช่น การใช้คำว่า “ติวเตอร์”, “คอร์สออนไลน์”, “เรียนออนไลน์” รวมถึงการเขียนหัวข้อบทความให้น่าสนใจและมีเนื้อหาดีจริงๆ ครับ สิ่งพวกนี้ไม่ต้องใช้เทคนิคซับซ้อน แค่เข้าใจหลักการแล้วลงมือทำอย่างสม่ำเสมอ ผลลัพธ์จะตามมาแน่นอนครับ

SEO เปรียบเหมือนแผนที่ที่พาคนมาเจอคุณในโลกออนไลน์ ถ้าคุณไม่มีมัน ต่อให้คุณเก่งแค่ไหนก็อาจถูกซ่อนไว้อยู่ในมุมเงียบๆ ของอินเทอร์เน็ตได้ง่ายๆ ครับ เพราะฉะนั้น ถ้าคุณเริ่มมีเว็บไซต์แล้ว อย่าลืมหาวิธีทำให้บทความหรือคอร์สของคุณปรากฏต่อสายตาคนอื่นด้วยนะครับ SEO ไม่ใช่เรื่องไกลตัวอีกต่อไปแล้วสำหรับติวเตอร์ยุคนี้

ใครยังไม่มีพื้นที่ออนไลน์ของตัวเอง ถึงเวลาแล้วที่ติวเตอร์ต้องมี “บ้าน” ไว้ปล่อยของ

ผมอยากปิดท้ายบทความนี้ด้วยคำแนะนำง่ายๆ ครับ ถ้าคุณยังไม่มีเว็บไซต์หรือบล็อกของตัวเองเลย นี่แหละคือเวลาที่ดีที่สุดที่จะเริ่มต้น อย่ารอให้พร้อม อย่ารอให้เก่งเทคโนโลยี เพราะสิ่งเหล่านั้นจะตามมาเองเมื่อคุณเริ่มลงมือครับ การมี “บ้านออนไลน์” สำหรับติวเตอร์ไม่ได้มีไว้แค่โชว์ผลงาน แต่เป็นพื้นที่ที่คุณสามารถปล่อยของ แบ่งปัน และสร้างโอกาสใหม่ให้กับตัวเองได้ตลอดเวลาครับ

อย่าคิดว่าต้องเป็นติวเตอร์ชื่อดังเท่านั้นถึงจะมีเว็บไซต์ได้นะครับ เพราะความจริงคือ เว็บไซต์ช่วยให้คุณกลายเป็นที่รู้จักต่างหาก ไม่ต้องรอให้มีชื่อเสียงก่อนถึงจะเริ่มได้ หากวันนี้คุณยังไม่มีพื้นที่ออนไลน์ของตัวเอง ผมอยากให้คุณเริ่มต้นเลยครับ เพราะเมื่อคุณมี “บ้าน” ของตัวเองแล้ว การสร้างแบรนด์ การสอน และการขายคอร์ส จะง่ายขึ้นกว่าที่คุณเคยคิดไว้เยอะเลยครับ

ลองคิดภาพว่าอีก 6 เดือนข้างหน้า ถ้าคุณเขียนบทความ 2 อาทิตย์ต่อครั้ง หรืออัปเดตเว็บไซต์บ่อยๆ คุณจะมีคอนเทนต์ที่คนสามารถเจอได้จากการค้นหา และนั่นแหละครับ คือโอกาสที่คนอื่นจะเห็นตัวตนของคุณโดยที่คุณไม่ต้องพูดเองเลย แค่เริ่มจากวันนี้ก็เพียงพอครับ

ลองนำแนวทางเหล่านี้ไปใช้ดูนะครับ แล้วธุรกิจของคุณจะเปลี่ยนไป!

ดี้ LandyCourse

กุญแจสู่ความสำเร็จ (Key to Success)

ถ้าคุณเป็นติวเตอร์ที่อยากเริ่มสร้างตัวตนให้ชัดเจนในยุคดิจิทัล ผมอยากให้คุณตั้งใจดูเช็คลิสต์ต่อไปนี้ให้ดีนะครับ เพราะทั้งหมดนี้คือสิ่งที่สรุปจากทุกหัวข้อสำคัญที่ผมเล่าไว้แล้ว เพื่อให้คุณได้เริ่มลงมือแบบมั่นใจว่าไม่หลงทางครับ

• กล้าปล่อยของ อย่าเก็บความรู้ไว้กับตัวคนเดียว ความรู้มีค่าต่อเมื่อถูกแชร์
• มี “ที่ปล่อยของ” ของตัวเอง เช่น เว็บไซต์ หรือเว็บบล็อก เพื่อสร้างพื้นที่แสดงตัวตน
• เข้าใจความแตกต่างระหว่างบล็อกและเว็บไซต์ แล้วใช้ทั้งสองอย่างเสริมกันให้ได้
• เปลี่ยนทักษะการสอนให้กลายเป็นคอนเทนต์ ที่มีคุณค่าบนเว็บไซต์เรียนออนไลน์
• สร้างเว็บไซต์เพื่อสร้างแบรนด์ ไม่ใช่แค่แชร์ความรู้ แต่ให้คนจดจำคุณได้
• รู้ว่าการเริ่มทำเว็บไซต์ไม่ยาก โดยเฉพาะระบบ WordPress ที่เหมาะกับติวเตอร์
• ทำ SEO อย่างจริงจัง เพื่อให้คนเจอคอร์สออนไลน์และเนื้อหาของคุณใน Google
• อย่ารอให้พร้อม ให้เริ่มเลย แล้วค่อยปรับไปตามทางที่เจอครับ
• เว็บไซต์คือบ้านของติวเตอร์ มีไว้แสดงความเชี่ยวชาญและดึงดูดโอกาส
• ทำเว็บไซต์ครั้งเดียว ใช้ต่อยอดได้อีกหลายปี ทั้งขายความรู้ และขยายอาชีพของคุณ

ทุกข้อที่เล่ามานี้ล้วนเชื่อมโยงกับการมีพื้นที่ออนไลน์ที่ใช่ครับ ไม่ว่าจะเป็นการสร้างเว็บไซต์เรียนออนไลน์ หรือเปลี่ยนการสอนให้กลายเป็นคอร์สออนไลน์ที่คนเข้าถึงได้ง่าย แค่คุณเริ่มคิดให้เป็นระบบและวางโครงสร้างอย่างถูกทาง ผมเชื่อว่าคุณจะสร้างแบรนด์ในฐานะติวเตอร์ที่แข็งแรงได้แน่นอนนะครับ

คำแนะนำสุดท้ายจากผม ดี้ LandyCourse

ผมอยากให้คุณลองหลับตาแล้วนึกภาพว่าตัวเองเป็นติวเตอร์ที่มีประสบการณ์ มีเทคนิคดีๆ ที่เคยช่วยให้นักเรียนเข้าใจบทเรียนได้ง่ายขึ้น มีวิธีอธิบายที่นักเรียนชอบ แล้วตอนนี้คุณนั่งอยู่กับกองสมุด สไลด์เก่าๆ และไฟล์โน้ตที่เก็บไว้อย่างดี แต่ไม่มีใครเคยได้เห็นมันเลยครับ ผมว่ามันน่าเสียดายนะ เพราะสิ่งที่คุณมีอยู่มันมากพอที่จะช่วยคนอีกมากมายได้ และยิ่งกว่านั้น มันสามารถกลายเป็นโอกาสใหม่ในชีวิตคุณได้ด้วย ถ้าเพียงแค่คุณกล้าที่จะ “ปล่อยของ” ครับ ไม่ต้องคิดเยอะว่าเราต้องพร้อมก่อน ไม่ต้องรอให้มีอุปกรณ์ครบหรือเทคโนโลยีล้ำหน้า เริ่มต้นจากสิ่งที่คุณมี เริ่มจากการเล่าเรื่องในแบบของคุณ แชร์มันออกมาแบบธรรมดาๆ แต่จริงใจ แล้วค่อยๆ ขยับจากตรงนั้นครับ

สิ่งที่ผมสังเกตจากติวเตอร์ที่ประสบความสำเร็จในยุคนี้ ไม่ใช่แค่สอนเก่งนะครับ แต่คือการเข้าใจว่าโลกมันเปลี่ยนไปแล้ว การมี เว็บไซต์เรียนออนไลน์ หรือ เว็บบล็อก ไม่ใช่เรื่องของคนที่ทำธุรกิจใหญ่เท่านั้น แต่คือเครื่องมือที่ทุกคนเข้าถึงได้ โดยเฉพาะติวเตอร์ที่อยากมีพื้นที่แสดงความเชี่ยวชาญให้คนรู้จักมากขึ้น ผมว่าทุกคนควรมี “ที่ปล่อยของ” เป็นของตัวเอง อย่างน้อยก็คือเว็บไซต์ที่คุณสามารถใส่บทความดีๆ เทคนิคการสอน หรือความรู้ที่อยากแบ่งปันเข้าไปได้เรื่อยๆ ไม่ต้องคิดให้ซับซ้อนเลยครับ แค่สร้างเว็บไซต์ง่ายๆ ที่คุณเข้าใจและควบคุมได้เอง อย่าง WordPress ก็เริ่มได้แล้ว จากตรงนั้นมันจะค่อยๆ เปลี่ยนคุณจากติวเตอร์ธรรมดาให้กลายเป็นคนที่คนอื่นมองว่าเก่งขึ้นทุกวันครับ

อีกอย่างที่ผมอยากย้ำคือ “ความต่อเนื่อง” ครับ การมีเว็บไซต์หรือบล็อกแค่ครั้งเดียวแล้วปล่อยทิ้งไว้ ไม่ต่างจากร้านค้าที่เปิดแต่ไม่มีของขาย การที่คุณเขียนบทความ หรือปล่อยคลิปเล่าเรื่องสั้นๆ เกี่ยวกับการเรียน เทคนิคการจำ หรือการแก้โจทย์ ยิ่งปล่อยบ่อยเท่าไหร่ คนยิ่งรับรู้ว่าคุณมีของครับ พวกเขาจะเริ่มติดตามคุณจากบทความเดียว แล้วค่อยๆ ไว้ใจมากขึ้น ยิ่งถ้าคุณมีคอร์สออนไลน์ หรืออยาก ขายความรู้ เมื่อไหร่ มันก็ไม่ใช่เรื่องยากแล้วครับ เพราะคุณได้สร้างความเชื่อมั่นมาก่อนหน้านั้นแล้วแบบไม่ต้องโฆษณาเลยด้วยซ้ำ

อีกเรื่องที่สำคัญไม่แพ้กันก็คือการเข้าใจ SEO หรือการทำให้คนเจอคุณผ่าน Google ครับ ไม่ต้องกลัวคำนี้เลยนะครับ เพราะจริงๆ แล้วมันไม่ได้ซับซ้อนอย่างที่หลายคนคิด แค่คุณเริ่มต้นจากการเขียนหัวข้อให้ตรงกับสิ่งที่คนค้นหา พยายามใส่คำที่เกี่ยวข้องลงไปในบทความอย่างเป็นธรรมชาติ และอย่าลืมว่าเนื้อหาที่ดีจะทำให้คนอยู่กับเว็บไซต์ของคุณนานขึ้น ซึ่ง Google ชอบแบบนั้นมากเลยครับ ผมเชื่อว่าติวเตอร์ทุกคนสามารถเรียนรู้พื้นฐาน SEO ได้ และถ้าคุณเข้าใจมัน คุณจะได้เปรียบมากในการแข่งขันในโลกออนไลน์ เพราะการมีคอนเทนต์ดีๆ แล้วไม่มีใครหาเจอมันก็เหมือนพูดคนเดียวในห้องเงียบๆ แต่ถ้าคุณใช้ SEO ได้ดี มันจะกลายเป็นเสียงที่ดังกว้างไกลครับ

ทั้งหมดที่เล่ามา ผมไม่ได้อยากให้คุณมองว่าเป็นเรื่องยากหรือเป็นภาระเลยนะครับ ผมอยากให้คุณรู้ว่าโลกดิจิทัลมันเปิดโอกาสให้เราเยอะมากจริงๆ และคุณไม่จำเป็นต้องเป็นโปรแกรมเมอร์ ไม่ต้องเป็นนักเขียนระดับเทพ หรือมีทีมงานเบื้องหลัง ก็สามารถ สร้างเว็บไซต์ และ ทำเว็บไซต์ ให้เป็นของตัวเองได้ครับ ผมอยากให้คุณเริ่มจากหัวใจของคุณ จากสิ่งที่คุณอยากสอน อยากแบ่งปัน แล้วค่อยๆ ใส่มันลงในเว็บไซต์ทีละนิด พอคุณเห็นว่ามันเริ่มก่อตัวขึ้น คุณจะรู้เลยว่านี่แหละคือบ้านอีกหลังที่คุณกำลังสร้างขึ้นด้วยความรู้ของตัวเอง เป็นบ้านที่พร้อมต้อนรับคนที่อยากเรียนรู้จากคุณ และเป็นบ้านที่สร้างโอกาสใหม่ให้ชีวิตคุณครับ

สุดท้ายนี้ ผมอยากให้คุณรู้ว่าทุกสิ่งที่ผมเล่าไปทั้งหมด ไม่ได้เป็นเรื่องไกลตัวเลยนะครับ ทุกคนที่มีใจอยากสอนและกล้าลงมือทำสามารถเริ่มต้นได้ทันที ผมไม่อยากให้คุณรอให้พร้อม เพราะจริงๆ แล้ว ไม่มีใครพร้อมหรอกครับ จนกว่าเราจะเริ่มลงมือทำ และพอคุณเริ่มต้นจริงๆ คุณจะพบว่าทางข้างหน้ามันเปิดกว้างกว่าที่คิดเยอะเลยครับ ขอแค่คุณมีใจอยากแบ่งปัน และมองไกลกว่าการสอนแค่ในห้องเรียน มองเห็นว่าความรู้ของคุณสามารถต่อยอดเป็นคอร์ส เป็นบทความ เป็นแบรนด์ และเป็นอาชีพที่ยั่งยืนได้ ผมอยู่ตรงนี้เพื่อสนับสนุนคุณเสมอครับ

อยากทักทายหรือสอบถาม ก็ทักไลน์มาคุยกับผมได้เลยนะครับ ^^
“ดี้ LandyCourse”