ครูบางคนมีวิธีอธิบายที่เด็กเข้าใจในสามนาที…แต่วิธีนั้นไม่เคยถูกบันทึกไว้อย่างเป็นระบบ

บางครั้งเราก็อาจลืมไปนะครับว่า “เคล็ดลับเล็กๆ” ที่เราใช้สอนนักเรียนในแต่ละวัน มันอาจเป็นสิ่งที่มีคุณค่ามากกว่าที่คิดครับ ผมเองเคยเห็นครูหลายคนที่มีวิธีอธิบายที่เด็ดขาด เข้าใจง่ายในเวลาไม่กี่นาที แต่ไม่มีใครรู้เลยว่าวิธีนั้นเกิดขึ้นได้ยังไง เพราะมันไม่เคยถูกจดบันทึกไว้อย่างเป็นระบบเลยครับ ถ้าเรามองให้ลึกลงไป ผมว่า…การสอนที่ได้ผลไม่ใช่เรื่องบังเอิญหรอกนะครับ แต่มันคือผลลัพธ์ของประสบการณ์ การลองผิดลองถูก และสัญชาตญาณของครูที่ถูกฝึกมาหลายปี แล้วทำไมเราจะไม่เก็บสิ่งเหล่านี้ไว้ให้เป็นระบบล่ะครับ

ทำไม “เคล็ดลับการสอน” ของครูจึงควรถูกบันทึกไว้เป็นระบบ

ผมเชื่อว่าครูหลายๆ คนมีเทคนิคเฉพาะตัวที่ใช้แล้วเห็นผลชัดเจนครับ ไม่ว่าจะเป็นวิธีอธิบายที่ทำให้นักเรียนเข้าใจทันที หรือการใช้ตัวอย่างเปรียบเทียบที่เด็กจำได้แม่นยำ แต่สิ่งเหล่านี้มักจะอยู่แค่ในความทรงจำหรือสมุดจดส่วนตัวเท่านั้นนะครับ พอเวลาผ่านไป เทคนิคเหล่านั้นก็ค่อยๆ เลือนหายไปตามกาลเวลา หรือบางทีก็หายไปพร้อมกับการย้ายโรงเรียน เปลี่ยนสายงาน หรือเกษียณอายุ

ถ้าเรามีพื้นที่ที่สามารถจัดเก็บเทคนิคต่างๆ เหล่านี้ได้อย่างเป็นระบบ เช่น เว็บไซต์เรียนออนไลน์ หรือเว็บคอร์สสำหรับครูเอง มันจะช่วยให้เราสามารถแบ่งปันองค์ความรู้นั้นออกไปได้ครับ ทั้งยังสามารถกลับมาใช้ซ้ำ ปรับปรุง หรือส่งต่อให้กับครูรุ่นใหม่ต่อไปได้อีกด้วยนะครับ นี่ไม่ใช่แค่การจัดเก็บข้อมูลเฉยๆ แต่เป็นการลงทุนในมรดกทางปัญญาของวิชาชีพครูเลยล่ะครับ

ถ้าไม่เก็บไว้ตอนนี้…เคล็ดลับดีๆ จะหายไปพร้อมเวลา

บางคนอาจจะคิดว่า “เอาไว้ก่อน เดี๋ยวค่อยเก็บ” แต่ความจริงแล้วนะครับ สมองของเราจำอะไรไว้ได้น้อยกว่าที่คิดครับ ยิ่งเมื่อเราสอนหลายห้อง หลายรุ่นในแต่ละปี เทคนิคการอธิบายที่เคยใช้ได้ผลดีมากๆ ในวันนี้ อาจจะถูกลืมไปในเวลาแค่ไม่กี่เดือนโดยไม่รู้ตัวเลยนะครับ ยิ่งไปกว่านั้น ถ้าเราเปลี่ยนสถานที่ทำงาน หรือถึงเวลาต้องเกษียณ เคล็ดลับเหล่านั้นก็จะหายไปพร้อมกับเราเลยครับ

ผมเคยได้ยินครูบางคนพูดว่า “ถ้ามีคนบันทึกตอนที่ฉันสอนคณิตเด็ก ป.5 แล้วอธิบายเรื่องเศษส่วนเข้าใจใน 3 นาทีได้ มันคงดี” ใช่ครับ มันคงดีมากๆ เลย ถ้าเรามีวิธีง่ายๆ ในการบันทึกสิ่งเหล่านี้ไว้ให้พร้อมใช้งานตลอดเวลา โดยไม่ต้องหวังพึ่งความจำหรือเอกสารกระดาษที่หายากในภายหลังนะครับ

สร้างระบบเก็บ “วิธีสอน” แบบง่ายๆ ด้วยเว็บไซต์ของตัวเอง

ถ้าครูคนไหนอยากเริ่มต้นจัดเก็บวิธีสอน เทคนิคการอธิบาย หรือไอเดียการสอนให้เป็นระบบมากขึ้น ผมแนะนำให้เริ่มจากการมองเห็นภาพรวมของสิ่งที่ตัวเองมีอยู่ก่อนครับ จากนั้นค่อยวางโครงสร้างเพื่อแปลงสิ่งเหล่านั้นให้กลายเป็นเนื้อหาที่สามารถนำไปเผยแพร่ได้จริงบน เว็บไซต์เรียนออนไลน์ หรือ เว็บไซต์คอร์ส ของเราเอง หลายคนอาจคิดว่ามันดูยากนะครับ แต่จริงๆ แล้วการวางระบบให้เป็นขั้นเป็นตอนจะช่วยให้คุณเริ่มต้นได้ง่ายขึ้นมาก และนี่คือโครงสร้างที่ผมแนะนำให้ใช้เป็นแนวทางเบื้องต้นครับ

• 1. Content Inventory (การจัดหมวดหมู่เนื้อหาที่มีอยู่): สำรวจว่าวิธีสอนที่คุณมีนั้นครอบคลุมเรื่องใดบ้าง เช่น คณิตศาสตร์ ภาษาไทย ทักษะชีวิต แล้วแยกออกเป็นหมวดหมู่ให้ชัดเจนครับ
• 2. Learning Objectives (เป้าหมายของเนื้อหา): ระบุให้ชัดเจนว่าแต่ละบทความหรือคลิปวิดีโอที่คุณจะบันทึกนั้นมีเป้าหมายให้นักเรียนเข้าใจเรื่องอะไร เช่น สัดส่วน เศษส่วน หรือหลักการคิดวิเคราะห์
• 3. Format Selection (รูปแบบเนื้อหา): คุณอาจมีทั้งบทความ, คลิปวิดีโอ, เกมการสอน, หรือแผนภาพ ให้เลือกใช้ตามจุดแข็งของตัวเอง เพื่อให้การสื่อสารใน ระบบบทเรียน มีความน่าสนใจ
• 4. Platform Structure (โครงสร้างของเว็บไซต์): แนะนำให้แบ่งหน้าเว็บไซต์เป็น “บทเรียน”, “แบบฝึกหัด”, และ “คลังแนวคิด” เพื่อให้ผู้เรียนเข้าถึงง่ายและต่อเนื่องครับ
• 5. Content Authoring (การเขียนหรือจัดทำเนื้อหา): ใช้ WordPress หรือ CMS ที่เข้าใจง่ายเพื่อเริ่มต้น โดยไม่จำเป็นต้องใช้ความรู้ด้านโค้ดเลยนะครับ
• 6. Visual Elements (การใช้ภาพประกอบ): เพิ่มภาพนิ่ง แผนผัง หรือ Infographic เพื่อให้วิธีสอนของคุณเข้าใจง่ายขึ้น และช่วยให้ผู้เรียนเห็นภาพรวมของเนื้อหาได้ดีขึ้น
• 7. Version Control (การอัปเดตเนื้อหา): ทำสรุปหรือปรับปรุงเนื้อหาให้ทันสมัยอยู่เสมอ เช่น เพิ่มเทคนิคใหม่ หรือปรับตามความเข้าใจที่ลึกขึ้นหลังจากใช้ในห้องเรียนจริง
• 8. Access Control (การตั้งค่าการเข้าถึง): ถ้าเนื้อหาบางอย่างอยากให้เฉพาะนักเรียนในชั้นเรียนเข้าถึง ก็สามารถใช้ระบบล็อกอินช่วยควบคุมการเข้าถึงได้ครับ
• 9. Feedback Loop (ระบบรับฟังความคิดเห็น): เปิดช่องทางให้ผู้ใช้งานหรือครูท่านอื่นๆ แสดงความคิดเห็นหรือแนะนำเพิ่มเติม เพื่อพัฒนา เทคนิคการสอน ให้ดีขึ้น
• 10. Knowledge Sharing (การเผยแพร่): อย่าลืมแบ่งปันเว็บไซต์ของคุณให้เพื่อนครูหรือชุมชนครูออนไลน์ได้รู้จักนะครับ ยิ่งแชร์มากเท่าไร ก็ยิ่งเพิ่มคุณค่ามากขึ้นเท่านั้น

ทั้งหมดนี้คือองค์ประกอบเบื้องต้นที่จะช่วยให้คุณสร้างระบบการสอนที่มีประสิทธิภาพบนโลกออนไลน์ได้อย่างมืออาชีพครับ ไม่ว่าคุณจะเลือกใช้รูปแบบไหน ขอแค่เริ่มจากสิ่งที่คุณถนัด แล้วพัฒนาต่อเนื่องด้วยหัวใจของคนที่อยากให้ความรู้เดินทางไปไกลที่สุด คุณก็สามารถสร้าง แผนการสอน และ “พื้นที่ความรู้” ของตัวเองให้กลายเป็นสิ่งที่ส่งต่อไปได้อีกหลายรุ่นเลยครับ

ตัวอย่างเนื้อหาที่ครูสามารถบันทึกไว้บนเว็บไซต์

ลองนึกถึงวิธีอธิบายที่เราคิดขึ้นมาเองตอนที่เด็กถามคำถามยากๆ แล้วเราตอบจนเขาเข้าใจได้ในไม่กี่นาทีครับ แบบนี้แหละที่ควรบันทึกไว้ เช่น สมมติว่ามีเด็กถามเรื่องแรงโน้มถ่วง แล้วเราหยิบถ้วยน้ำมาวางบนโต๊ะเพื่ออธิบายแบบเห็นภาพชัดๆ ตรงนั้นแหละครับคือเนื้อหาที่ควรถูกบันทึกไว้บนเว็บไซต์ของเรา

หรือจะเป็นเกมการสอนเฉพาะวิชา เทคนิคที่ใช้ในชั้นเรียน หรือแม้แต่แนวคำถามที่เราตั้งเพื่อกระตุ้นให้เด็กคิดได้ด้วยตัวเอง สิ่งเหล่านี้เป็นประสบการณ์จริงที่ไม่มีในหนังสือ แต่เราสร้างขึ้นจากสถานการณ์หน้างานทั้งหมดเลยครับ ถ้ามีการบันทึกไว้ มันจะกลายเป็นคลังความรู้ที่มีชีวิต และจะมีคุณค่ามากขึ้นเรื่อยๆ เมื่อเวลาผ่านไปนะครับ

เริ่มต้นยังไงดี? ถ้าอยากทำเว็บเก็บวิธีการสอนแบบมืออาชีพ

ผมขอเล่าให้ฟังเป็นขั้นตอนแบบเพื่อนเล่าให้เพื่อนฟังนะครับ ถ้าครูคนไหนยังไม่เคยแตะเรื่องเว็บไซต์มาก่อนเลย ก็ไม่ต้องกังวลครับ สิ่งแรกที่ควรเริ่มต้นคือการรวบรวมเนื้อหาที่อยากบันทึก ไม่ต้องเยอะครับ เอาแค่สิ่งที่เราเคยใช้แล้วได้ผลจริงในห้องเรียนก่อนก็พอ เช่น วิธีอธิบายเรื่องที่เด็กเข้าใจยาก หรือแบบฝึกที่เคยทำให้เด็กเก่งขึ้นเร็วๆ แล้วก็ลองจัดหมวดหมู่ให้มัน เช่น คณิต วิทย์ ภาษา หรือแยกตามระดับชั้นก็ได้ครับ

จากนั้นก็มาถึงการเลือกแพลตฟอร์มสำหรับทำเว็บไซต์ ซึ่งในปัจจุบันมีหลายตัวเลือกที่ใช้งานง่ายมากๆ โดยเฉพาะพวก WordPress หรือเว็บไซต์แนวคอร์สออนไลน์ที่เหมาะกับครูโดยเฉพาะครับ แพลตฟอร์มเหล่านี้ออกแบบมาเพื่อให้คนที่ไม่ถนัดไอทีสามารถเริ่มต้นได้โดยไม่ต้องเขียนโค้ดเลยครับ ขอแค่มีเนื้อหา กับไอเดียในการจัดวางเท่านั้นพอ ที่เหลือระบบช่วยเราได้หมดครับ

ทำไมเว็บเก็บเทคนิคการสอนถึงกลายเป็น “แบรนด์ส่วนตัว” ของครูได้

ในโลกปัจจุบัน ความน่าเชื่อถือไม่ได้วัดจากวุฒิการศึกษาอย่างเดียวแล้วนะครับ แต่มันวัดจากสิ่งที่เราสร้างและแบ่งปันออกไปด้วย ถ้าครูคนหนึ่งมีเว็บไซต์ที่รวบรวมเทคนิคการสอนเฉพาะตัว บทเรียนที่ออกแบบเอง หรือแนวทางการอธิบายที่เข้าใจง่าย มันก็เหมือนกับการสร้างพอร์ตการสอนในแบบฉบับของตัวเองเลยครับ แล้วพอร์ตแบบนี้แหละ ที่สามารถนำไปใช้ต่อยอดในหลายทางได้

บางคนอาจได้เป็นวิทยากรจากสิ่งที่เคยเขียนไว้บนเว็บไซต์ หรือบางคนก็กลายเป็นครูที่มีชื่อเสียงในโลกออนไลน์ จากการเผยแพร่แนวคิดใหม่ๆ ผ่านเว็บไซต์ของตัวเองนี่แหละครับ ไม่จำเป็นต้องขายคอร์สก็มีแบรนด์ได้ เพราะเนื้อหาที่เราทำออกไป มันสะท้อนความคิด วิธีสอน และคุณค่าที่เรามีให้กับนักเรียนทุกคนเลยนะครับ

เว็บไซต์นี้ไม่ใช่แค่เก็บไว้ดูคนเดียว แต่แชร์ให้ครูทั้งประเทศก็ได้

ผมเชื่อว่าการแบ่งปันความรู้คือหนึ่งในหัวใจของความเป็นครูนะครับ เว็บไซต์ที่เราสร้างขึ้นมา ไม่ได้มีไว้แค่สำหรับตัวเองอย่างเดียว แต่สามารถเปิดให้เพื่อนครูคนอื่นๆ เข้ามาเรียนรู้แนวทางของเราได้ด้วยครับ บางคนอาจได้แรงบันดาลใจจากวิธีการที่เราใช้ หรือบางคนอาจได้แนวคิดใหม่ๆ ไปปรับใช้ในห้องเรียนของเขา

ถ้าเว็บไซต์ของเราถูกจัดหมวดหมู่ดีๆ ใช้งานง่าย และมีเนื้อหาที่นำไปใช้ได้จริง มันก็สามารถกลายเป็นชุมชนเล็กๆ ของครูที่มีแนวคิดคล้ายกันได้เลยครับ ไม่แน่ว่าในอนาคต มันอาจจะกลายเป็นแหล่งรวมทรัพยากรด้านการสอนที่ช่วยยกระดับการศึกษาได้อีกด้วยนะครับ แล้วใครบอกว่าครูธรรมดาจะสร้างอิทธิพลไม่ได้ล่ะครับ

ถึงเวลาเปลี่ยนวิธีสอนของคุณ ให้กลายเป็นแหล่งเรียนรู้ที่มีพลัง

ถ้าคุณเคยรู้สึกว่าสิ่งที่คุณสอนมันมีค่ามากกว่าที่ใครจะรู้ ผมอยากบอกว่า…คุณคิดถูกแล้วครับ และตอนนี้มันถึงเวลาที่จะเปลี่ยนสิ่งนั้นให้กลายเป็นแหล่งเรียนรู้ที่มีพลังจริงๆ แล้วนะครับ เว็บไซต์จะเป็นเวทีที่เปิดโอกาสให้คุณได้ส่งต่อวิธีคิด วิธีอธิบาย และประสบการณ์ของคุณไปสู่คนอื่นๆ โดยไม่จำกัดแค่ในห้องเรียน

บางครั้งวิธีที่คุณใช้อธิบายเรื่องหนึ่งให้นักเรียนเข้าใจในเวลาไม่กี่นาที อาจเป็นสิ่งที่ครูอีกหลายคนตามหามานานแล้วก็ได้นะครับ อย่าปล่อยให้สิ่งดีๆ เหล่านั้นหายไปกับเวลา ลองเริ่มต้นสร้างเว็บไซต์เล็กๆ ของคุณวันนี้ แล้วคุณจะเห็นเลยครับว่า “ความรู้ของเรา” มีพลังมากแค่ไหนเมื่อได้ถูกส่งต่อออกไป

กุญแจสู่ความสำเร็จ (Key to Success)

สิ่งที่ผมอยากสรุปให้กับเพื่อนครูทุกคนที่กำลังมองหาวิธีเก็บความรู้ของตัวเองอย่างเป็นระบบก็คือ…เราสามารถเริ่มต้นสร้าง “แหล่งเรียนรู้ส่วนตัว” ได้จากความรู้ที่เรามีอยู่แล้วนี่แหละครับ และนี่คือแนวทางเด็ดๆ ที่ผมรวบรวมมาให้คุณได้นำไปใช้ต่อยอดได้ทันทีนะครับ

• มอง “วิธีสอน” ของตัวเองเป็นทรัพย์สินทางปัญญา
• อย่ารอให้ลืม…จงบันทึกเทคนิคการสอนทันที
• ใช้เว็บไซต์เรียนออนไลน์ หรือเว็บไซต์คอร์ส เป็นที่เก็บเนื้อหา
• เริ่มจากเนื้อหาที่เคยใช้แล้วได้ผลจริงในห้องเรียน
• ไม่ต้องเขียนโค้ดก็สร้างเว็บไซต์ส่วนตัวได้ด้วย WordPress
• บันทึกวิธีอธิบาย, เกมการสอน, คลิป หรือโน้ตสรุป
• เว็บไซต์ที่ดีต้องใช้งานง่ายและจัดหมวดหมู่ชัดเจน
• แบ่งปันเว็บไซต์ให้ครูคนอื่นใช้ได้ก็ยิ่งเพิ่มคุณค่า
• เว็บไซต์ของคุณสามารถกลายเป็น “แบรนด์ครู” ได้
• ส่งต่อความรู้ให้กับครูยุคใหม่ และนักเรียนรุ่นต่อไป

ทั้งหมดนี้คือหัวใจของการสร้างเว็บไซต์เรียนออนไลน์หรือเว็บไซต์คอร์สที่ไม่ใช่แค่เก็บข้อมูล แต่กลายเป็นพื้นที่ส่งต่อความรู้ และสร้างอิทธิพลทางการศึกษาที่แท้จริงครับ ผมเชื่อว่าถ้าคุณเริ่มวันนี้ คุณจะไม่เสียใจในวันข้างหน้าแน่นอนนะครับ

คำแนะนำสุดท้ายจากผม ดี้ LandyCourse

ตลอดบทความทั้งหมดที่คุณได้อ่านมาตั้งแต่ต้นจนถึงตรงนี้ ผมอยากบอกเลยครับว่า ถ้าคุณเป็นครูคนหนึ่งที่กำลังสอนหนังสืออยู่ในห้องเรียนทุกวัน คุณกำลังนั่งอยู่บนขุมทรัพย์แห่งประสบการณ์ที่คุณอาจยังไม่รู้ตัวเลยด้วยซ้ำครับ สิ่งที่คุณทำกับนักเรียนในห้องเรียน ไม่ว่าจะเป็นการอธิบายด้วยวิธีที่ไม่เหมือนใคร การตั้งคำถามที่ทำให้เด็กเข้าใจลึกขึ้น หรือแม้แต่การออกแบบเกมการสอนสนุกๆ สิ่งเหล่านั้นล้วนมีคุณค่ามากพอจะกลายเป็นเนื้อหาใน เว็บไซต์เรียนออนไลน์ หรือ เว็บไซต์คอร์ส ของคุณเองได้ทันทีครับ ถ้าคุณเคยรู้สึกว่าสิ่งที่คุณทำทุกวันมันไม่มีคนเห็น ผมอยากให้คุณลองจินตนาการดูสิครับว่า ถ้ามีเด็กคนหนึ่งในจังหวัดห่างไกล ได้เรียนรู้จากวิธีการที่คุณเคยสอน แล้วเข้าใจในสิ่งที่เคยเข้าใจผิดมาตลอด นั่นคือพลังของการ แบ่งปันวิธีสอน ผ่านโลกออนไลน์ครับ

ผมเข้าใจเลยครับว่า หลายคนอาจรู้สึกว่าเทคโนโลยีเป็นเรื่องที่ไกลตัว ยิ่งคำว่า สร้างเว็บไซต์ หรือ ทำเว็บไซต์ ยิ่งฟังดูยากและเหมือนต้องใช้ความรู้ไอทีขั้นสูง แต่จริงๆ แล้วมันไม่ใช่อย่างที่คิดเลยครับ ทุกวันนี้มีระบบที่ช่วยให้ครูสามารถเริ่มต้นได้โดยไม่ต้องเขียนโค้ดแม้แต่นิดเดียว อย่าง WordPress หรือเว็บไซต์แนว SaaS Web Course ที่ใช้สร้างคอร์สออนไลน์ได้โดยตรงก็มีให้เลือกหลากหลายแบบครับ ขอแค่คุณเริ่มต้นจากสิ่งที่คุณมีอยู่แล้ว — บันทึกที่คุณเขียนให้เด็ก โน้ตที่คุณใช้ติว หรือคลิปที่เคยอธิบายแล้วเด็กเข้าใจทันที สิ่งเหล่านี้แหละครับที่ควรถูกแปลงเป็นรูปแบบที่คนอื่นสามารถเข้าถึงได้ ผมอยากให้คุณคิดว่าเว็บไซต์ของคุณ ไม่ใช่แค่แหล่งเก็บความรู้ส่วนตัว แต่มันคือพื้นที่ที่คุณกำลังขยายอิทธิพลการสอนของคุณออกไปในวงกว้างโดยที่คุณอาจไม่รู้ตัวเลยครับ

การสร้าง เว็บไซต์คอร์ส หรือบล็อกสอนออนไลน์สำหรับครู มันไม่ใช่แค่เพื่อจัดเก็บเนื้อหาส่วนตัวนะครับ แต่มันสามารถกลายเป็นเครื่องมือทางอาชีพที่สำคัญมากๆ ได้เลยครับ ถ้าคุณมีเว็บไซต์ที่รวบรวม “วิธีสอน” ของคุณไว้อย่างเป็นระบบ เมื่อถึงเวลาที่ต้องขอเลื่อนตำแหน่ง สมัครทุน หรือต้องการเป็นวิทยากรในงานวิชาการต่างๆ เว็บไซต์นี้ก็กลายเป็นผลงานที่จับต้องได้ทันที มันสะท้อนความคิด วิธีการทำงาน และอัตลักษณ์การสอนของคุณได้อย่างชัดเจน และมากไปกว่านั้นครับ ถ้าเนื้อหาของคุณมีประโยชน์มากพอ มันอาจจะกลายเป็นแหล่งเรียนรู้ที่คนทั้งประเทศเข้ามาค้นหาและเรียนรู้ต่อยอดกันไปอีกหลายรุ่นเลยก็ได้ ผมอยากให้คุณมองสิ่งนี้เป็น “จุดเริ่มต้น” ไม่ใช่แค่ “ของสะสม” นะครับ

ในโลกยุคใหม่ที่เทคโนโลยีเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว ครูที่เข้าใจและใช้มันให้เป็นประโยชน์จะได้เปรียบมากครับ ไม่จำเป็นต้องใช้ระบบอัตโนมัติซับซ้อน หรือระบบใหญ่โตแบบองค์กร คุณแค่ต้องเข้าใจว่าคุณสามารถสร้าง “ระบบของคุณเอง” ได้จากสิ่งที่คุณทำอยู่แล้วในห้องเรียน ด้วยการออกแบบอย่างมีเป้าหมาย และใช้เครื่องมือที่เหมาะสมกับตัวคุณที่สุด แล้วค่อยๆ เติบโตจากตรงนั้น เว็บไซต์ของคุณอาจเริ่มต้นจากบทความธรรมดาไม่กี่ย่อหน้า คลิปสั้นๆ จากโทรศัพท์มือถือ หรือแม้แต่แผนการสอนแบบง่ายๆ แต่เมื่อเวลาผ่านไป ถ้าคุณดูแลมันเหมือนสวนเล็กๆ ที่ค่อยๆ เติบโต สิ่งที่คุณจะได้กลับมา ไม่ใช่แค่จำนวนผู้ติดตาม หรือชื่อเสียงครับ แต่มันคือการที่คุณได้สร้างคุณค่าต่อสังคมในแบบของคุณเอง

สุดท้ายนี้ผมอยากให้กำลังใจครูทุกคนครับ ไม่ว่าคุณจะเป็นครูประจำชั้น ครูพิเศษ ครูเอกชน หรือใครก็ตามที่มีใจรักในการสอน คุณมีสิ่งที่มีค่าอยู่ในมือแล้วครับ แค่คุณเริ่มต้นลงมือเก็บมันไว้ให้เป็นระบบ และแบ่งปันมันให้โลกได้เห็น ไม่ต้องคิดเยอะว่าใครจะดู ไม่ต้องกังวลว่ามันจะยังไม่สมบูรณ์ เพราะทุกบทเรียนในเว็บไซต์ของคุณ มันสามารถเติบโตและพัฒนาไปได้เรื่อยๆ ครับ ผมอยากให้คุณเริ่มจากจุดเล็กๆ ที่คุณถนัด และทำต่อไปเรื่อยๆ อย่างสม่ำเสมอ เพราะเว็บไซต์ที่ดีไม่ใช่เว็บไซต์ที่ใหญ่โต แต่คือเว็บไซต์ที่ “มีความหมาย” สำหรับคนที่ได้เข้ามาอ่านจริงๆ ครับ

อยากทักทายหรือสอบถาม ก็ทักไลน์มาคุยกับผมได้เลยนะครับ ^^
ดี้ LandyCourse