นักอสังหาริมทรัพย์ที่รู้จักทุกพื้นที่ในเมือง…อาจยังไม่มี “พื้นที่ของตัวเอง” บนโลกออนไลน์

นักอสังหาริมทรัพย์หลายคนรู้จักทุกซอกทุกมุมของเมือง รู้ว่าทำเลไหนกำลังขึ้น รู้ว่าลูกค้าชอบบ้านแถวไหนมากที่สุด แต่กลับไม่มีใครรู้จักเขาในโลกออนไลน์เลยครับ เรื่องนี้ฟังดูย้อนแย้งใช่มั้ยครับ เพราะในขณะที่เราวิ่งวุ่นทำงานหนักทุกวัน แต่สุดท้ายกลับไม่มีตัวตนให้คนหาเจอ มันก็เหมือนกับว่าเราทำงานอยู่ในพื้นที่ที่ไม่มีคนเดินผ่านนะครับ

เว็บไซต์จึงไม่ใช่แค่ของแถม หรือของที่ “ใครๆ ก็มี” อีกต่อไปครับ แต่มันคือทำเลดิจิทัลที่เราต้องมีไว้ให้ลูกค้าเจอในวันที่เขาต้องการค้นหา ถ้าเราไม่มีเว็บไซต์ เราก็ไม่มีหน้าร้านในโลกออนไลน์ แล้วลูกค้าจะเจอเราได้ยังไงใช่มั้ยครับ นี่แหละครับจุดที่หลายคนมองข้าม ทั้งที่มันอาจเป็นโอกาสที่สำคัญที่สุดของอาชีพนักอสังหาฯ ในยุคนี้เลยก็ว่าได้ครับ

ลูกค้ายุคใหม่ “ค้นก่อนซื้อ” แล้วคุณอยู่ตรงไหนในหน้าค้นหา?

ทุกวันนี้พฤติกรรมของคนซื้อเปลี่ยนไปมากครับ โดยเฉพาะในตลาดอสังหาฯ ที่การตัดสินใจมักเริ่มจากการค้นหาข้อมูลก่อน ไม่ว่าจะเป็นบ้าน คอนโด หรือแม้แต่ที่ดิน ลูกค้าส่วนใหญ่มักเริ่มจาก Google หรือโซเชียล แล้วค่อยติดต่อกับตัวแทนหลังจากเจอสิ่งที่ใช่ ถ้าเราไม่มีตัวตนตรงนั้น ก็เหมือนเราไม่เคยมีตัวเลือกให้เขาเลยครับ

สิ่งที่น่าคิดคือ แม้เราจะมีประสบการณ์ มีความรู้ มีทรัพย์ดีในมือ แต่ถ้าไม่มีเว็บไซต์ที่พร้อมให้ค้นเจอ ทุกอย่างก็จบตั้งแต่ยังไม่เริ่มครับ การแข่งขันในโลกออนไลน์มันต่างจากการเดินหาลูกค้าตามตึกหรือตลาดนะครับ เพราะที่นี่ คนที่ “มีตัวตน” เท่านั้นถึงจะมีโอกาสถูกเลือก เว็บไซต์จึงไม่ใช่แค่เครื่องมือ แต่คือสนามที่ทุกคนต้องลงแข่งครับ

ลองนึกภาพตามนะครับ ถ้าลูกค้าค้นหา “คอนโดโซนรัชดา” แล้วเจอหน้าเว็บไซต์ของเราแสดงข้อมูลอย่างครบถ้วน มีโปรไฟล์น่าเชื่อถือ และสามารถติดต่อกลับได้ทันที โอกาสที่เขาจะทักเรามีสูงมากเลยครับ นี่คือสิ่งที่เว็บไซต์ทำได้อย่างที่โซเชียลเพียงอย่างเดียวอาจยังไม่ตอบโจทย์ทั้งหมดนะครับ

เว็บไซต์ที่ดีสำหรับนักอสังหาฯ ต้องตอบโจทย์อะไรบ้าง?

เว็บไซต์ที่ดีสำหรับนักอสังหาริมทรัพย์ ไม่ได้แค่สวยหรือมีโลโก้เท่ ๆ เท่านั้นนะครับ แต่ต้องมีฟีเจอร์และโครงสร้างที่ตอบโจทย์การใช้งานจริงของทั้งเจ้าของเว็บไซต์และลูกค้า หากวางโครงสร้างดีตั้งแต่แรก เว็บไซต์จะไม่ใช่แค่หน้าร้านออนไลน์ แต่เป็นศูนย์กลางของการทำงาน ขาย และสร้างความน่าเชื่อถือแบบมืออาชีพเลยครับ ลองดูรายการต่อไปนี้ให้ครบ แล้วสำรวจเว็บไซต์ของคุณเองว่าขาดข้อไหนไปบ้าง

• Responsive Design (เว็บไซต์รองรับทุกอุปกรณ์) – รองรับการใช้งานทั้งมือถือ แท็บเล็ต และคอมพิวเตอร์ เพื่อให้ลูกค้าใช้งานได้ลื่นไหลทุกแพลตฟอร์มครับ
• Profile Page (หน้าโปรไฟล์ส่วนตัว) – แสดงประสบการณ์ ทำเลที่เชี่ยวชาญ และความเป็นมืออาชีพ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้ลูกค้าตั้งแต่หน้าแรก
• Property Showcase (ระบบแสดงทรัพย์) – นำเสนอข้อมูลอสังหาฯ อย่างมืออาชีพ พร้อมภาพประกอบ ข้อมูลครบ และค้นหาง่าย
• Lead Capture Form (แบบฟอร์มเก็บข้อมูลลูกค้า) – จุดเริ่มต้นของระบบ ระบบติดตามลูกค้า (CRM) ที่ดี โดยลูกค้าทิ้งข้อมูลไว้ได้ทันที
• Call to Action (CTA) ที่ชัดเจน – กระตุ้นให้ลูกค้าทำสิ่งที่เราต้องการ เช่น ติดต่อกลับ หรือ นัดดูทรัพย์ โดยไม่ต้องเสียเวลาหาเอง
• ระบบแสดงรีวิวลูกค้า – สร้างความน่าเชื่อถือให้กับแบรนด์ส่วนตัวของคุณ โดยแสดงรีวิวจากผู้ใช้บริการจริง
• แผนที่หรือ Location Integration – ใช้ Google Maps หรือระบบพิกัดอื่น ๆ เพื่อให้ลูกค้าเข้าใจตำแหน่งของทรัพย์ได้อย่างแม่นยำ
• ระบบติดต่อหลายช่องทาง – เช่น เบอร์โทร, ไลน์, แบบฟอร์ม หรือแม้แต่ลิงก์ไปโซเชียล เพื่อให้ลูกค้าสะดวกที่สุดในการติดต่อครับ
• ระบบกรองและค้นหาทรัพย์ – ลูกค้าสามารถค้นหาทำเลหรือประเภทอสังหาได้ง่ายและตรงใจมากขึ้นครับ
• SEO-Friendly Structure – ช่วยให้เว็บไซต์ของคุณติดอันดับใน Google ได้ง่ายขึ้น เป็นช่องทางดึงลูกค้าแบบไม่ต้องยิงโฆษณาตลอดเวลา
• ระบบจัดการง่าย – ใช้งานง่าย ไม่ต้องพึ่งโปรแกรมเมอร์ ใช้ได้แม้ไม่มีพื้นฐานเทคนิค เพื่อให้นักอสังหาอัปเดตเว็บได้ด้วยตัวเอง
• ใช้เทคโนโลยีที่ยืดหยุ่นได้ – เช่น เว็บไซต์ WordPress ที่สามารถปรับแต่งให้ตรงกับการใช้งานในระยะยาวโดยไม่ล้าสมัยเร็วเกินไป

เว็บไซต์ = ผู้ช่วยส่วนตัวที่ทำงานให้คุณ 24 ชั่วโมง

คนส่วนใหญ่มองเว็บไซต์เป็นแค่หน้าตาออนไลน์ แต่จริง ๆ แล้วมันคือผู้ช่วยมืออาชีพที่ไม่เคยหลับครับ ลองจินตนาการดูนะครับ เวลาที่เรานอนอยู่ เว็บไซต์ยังคงทำหน้าที่เล่าเรื่องเรา แสดงผลงาน และเปิดโอกาสให้ลูกค้าใหม่ติดต่อเราเข้ามาได้ตลอดเวลา มันคือพนักงานขายที่ไม่มีวันหยุด ไม่มีวันล้า และพร้อมทำงานแทนเราเสมอครับ

ไม่ใช่แค่นั้นนะครับ เว็บไซต์ยังสามารถช่วยกรองลูกค้าให้เราได้ด้วย เช่น การใช้ฟอร์มให้ลูกค้าแจ้งความต้องการเบื้องต้น หรือให้เลือกดูทรัพย์ที่ตรงกับไลฟ์สไตล์ของเขา ซึ่งช่วยประหยัดเวลาในการคัดกรอง และช่วยให้เราโฟกัสกับลูกค้าที่มีคุณภาพได้มากขึ้นครับ

นี่แหละครับคือเหตุผลที่ผมบอกว่า เว็บไซต์ไม่ใช่แค่มีไว้ แต่ต้อง “ทำงานแทน” ให้เราได้จริง ๆ แล้วคุณจะรู้เลยครับว่าการมีเว็บไซต์ที่ทำหน้าที่ได้ดี มันคุ้มกว่าการวิ่งหาลูกค้าแบบเดิม ๆ มากแค่ไหน

จากนายหน้า → สู่แบรนด์อสังหาฯ ที่ลูกค้าเชื่อใจ

การเป็นนักอสังหาริมทรัพย์ในยุคนี้ ถ้าจะให้โตไปไกลกว่าการเป็นแค่ “นายหน้า” สิ่งสำคัญคือการสร้างแบรนด์ส่วนตัวครับ เพราะลูกค้าไม่ได้มองหาแค่คนที่พาไปดูบ้าน เขามองหาคนที่เขาเชื่อใจได้ คนที่เข้าใจความต้องการของเขาจริง ๆ และคนที่ดูน่าไว้วางใจตั้งแต่แรกเห็นครับ ซึ่งสิ่งเหล่านี้แหละครับที่เว็บไซต์สามารถสะท้อนออกมาได้แบบชัดเจน

เว็บไซต์ที่ดีจะช่วยเล่าเรื่องราวของคุณ ตั้งแต่เส้นทางการทำงาน ความชำนาญในทำเลต่าง ๆ รวมถึงรีวิวหรือความเห็นจากลูกค้าเก่า ซึ่งทั้งหมดนี้ช่วยสร้างภาพลักษณ์ให้คุณเป็นผู้เชี่ยวชาญ เป็นคนที่ “เข้าใจ” ไม่ใช่แค่ “ขาย” และมันคือสิ่งที่ทำให้คนจดจำคุณในฐานะแบรนด์ได้ครับ ไม่ใช่แค่ในฐานะคนกลางที่เปลี่ยนได้ทุกเมื่อ

ถ้าลองเปลี่ยนมุมมองว่าเว็บไซต์ไม่ใช่หน้าร้านเฉย ๆ แต่คือ “แพลตฟอร์มสำหรับสร้างแบรนด์” คุณจะเริ่มเห็นศักยภาพมหาศาลของมันครับ เพราะมันช่วยสะสมความน่าเชื่อถือในระยะยาว และกลายเป็นสินทรัพย์ดิจิทัลที่ช่วยคุณได้เสมอ โดยไม่ต้องเริ่มต้นจากศูนย์ทุกครั้งที่เปลี่ยนช่องทางขายนะครับ

ถ้าไม่มีระบบออนไลน์…คุณจะโตได้แค่ตามเวลาที่มี

นักอสังหาริมทรัพย์จำนวนมากยังทำงานด้วยรูปแบบเดิมคือใช้แรง ใช้เวลา ใช้โทรศัพท์ติดต่อลูกค้าทีละคนครับ ซึ่งวิธีนี้มันใช้ได้ แต่ไม่สามารถขยายผลได้มากนัก เพราะเวลาของเรามีจำกัด ต่อให้เก่งแค่ไหนก็ทำได้แค่วันละไม่กี่ดีลครับ และนี่แหละครับคือข้อจำกัดใหญ่ที่ดึงเราไว้ไม่ให้โตได้มากกว่านี้

การมีเว็บไซต์ที่เชื่อมโยงกับระบบติดตามลูกค้าอัตโนมัติ (เช่น ระบบเก็บรายชื่อ หรือส่งข้อมูลกลับอัตโนมัติ) จะช่วยให้เราสร้างระบบที่ทำงานแทนเราได้ 24 ชั่วโมงครับ โดยไม่ต้องนั่งแชท ตอบทุกคำถาม หรือจัดคิวด้วยตัวเองทุกครั้ง ลองคิดดูสิครับ ถ้ามีลูกค้าใหม่เข้ามาทุกวัน แต่ระบบจัดการให้หมด เราจะสามารถโฟกัสแค่กับลูกค้าที่พร้อมจริง ๆ ได้เลยนะครับ

เว็บไซต์ที่ดีไม่ใช่แค่มีข้อมูลครับ แต่มันต้องเชื่อมต่อกับระบบที่รองรับการเติบโตได้จริง ซึ่งจะช่วยให้เราทำงานฉลาดขึ้น ไม่ใช่ทำงานหนักขึ้น และเมื่อถึงจุดหนึ่ง เราก็จะมีเวลามากขึ้น พร้อมขยายธุรกิจ หรือเพิ่มช่องทางรายได้อื่น ๆ ได้อีกมากครับ

ไม่ใช่แค่มีเว็บ…แต่ต้องมีระบบรองรับการเติบโต

หลายคนพอมีเว็บไซต์แล้วก็รู้สึกว่า “โอเคละ มีเว็บแล้ว” แต่ลืมไปว่าเว็บไซต์เปล่า ๆ มันไม่ได้พาธุรกิจไปต่อได้หรอกครับ สิ่งที่สำคัญกว่าคือระบบที่อยู่เบื้องหลังเว็บไซต์ ว่ามันรองรับการเติบโตได้แค่ไหน เช่น ถ้าคุณเริ่มมีลูกค้าเยอะขึ้น ระบบเก็บข้อมูลหรือการติดตามลูกค้าคุณพร้อมมั้ยครับ?

ระบบที่ควรมีเช่น ระบบแบบฟอร์มที่ส่งอีเมลอัตโนมัติ ระบบจัดเก็บข้อมูลลูกค้าแบบเบื้องต้น หรือแม้แต่ระบบจัดการทรัพย์ให้เป็นหมวดหมู่ เข้าใจง่ายครับ ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะช่วยลดงานซ้ำซ้อน และทำให้ลูกค้ารู้สึกว่าเรามืออาชีพจริง ๆ ไม่ใช่แค่มีเว็บสวย แต่ไม่มีอะไรอยู่ข้างในครับ

การมีระบบดี ๆ จะช่วยให้เรารองรับงานที่เพิ่มขึ้นในอนาคตได้สบาย ไม่ต้องรื้อเว็บใหม่ทุกครั้งที่มีของใหม่เข้ามา และนั่นคือสิ่งที่ทำให้เว็บไซต์กลายเป็นเครื่องมือระยะยาวครับ ไม่ใช่ของที่ต้องแก้หรือเปลี่ยนบ่อย ๆ

ถึงเวลาสร้าง “พื้นที่ของคุณเอง” ที่คนอื่นหาเจอ

สุดท้ายแล้วสิ่งที่อยากชวนให้คุณเริ่มคิดตั้งแต่วันนี้เลยก็คือ การสร้างพื้นที่ของตัวเองบนโลกออนไลน์ครับ เพราะมันไม่ใช่แค่เทรนด์ แต่คือความจำเป็น ถ้าคุณยังไม่มีเว็บไซต์ที่เป็นเหมือน “บ้านดิจิทัล” ของตัวเอง ก็เหมือนคุณเป็นนักอสังหาฯ ที่ไม่มีที่อยู่บนแผนที่ออนไลน์เลยนะครับ

อย่ารอให้ลูกค้าโทรหาก่อนค่อยหาพื้นที่ออนไลน์ แต่จงสร้างพื้นที่ให้เขาหาเราเจอได้ทันทีครับ เพราะเว็บไซต์จะทำหน้าที่เป็นทั้งพอร์ตฟอลิโอ เครื่องมือทางการตลาด และระบบคัดกรองลูกค้าแบบครบวงจร ถ้าออกแบบดีและต่อยอดเป็น มันจะกลายเป็นแหล่งรายได้ที่ไม่ต้องนั่งเฝ้าทุกวันเลยครับ

ผมอยากให้คุณลองคิดว่า “บ้านหลังนี้” จะเป็นบ้านที่ใครก็เข้าได้ ถ้าเขารู้จักชื่อคุณ และถ้าพวกเขาชอบ เขาก็จะติดต่อคุณเองครับ อย่ารอให้คนอื่นแนะนำ เพราะถ้าเรายังไม่สร้างพื้นที่ของเรา ก็จะไม่มีใครทำให้เราครับ ถึงเวลาสร้างพื้นที่นั้นให้เกิดขึ้นจริงแล้วนะครับ

กุญแจสู่ความสำเร็จ (Key to Success)

ถ้านักอสังหาริมทรัพย์อยากมีพื้นที่ของตัวเองบนโลกดิจิทัลให้ลูกค้าเชื่อมั่นได้จริง ต้องมีสิ่งเหล่านี้ให้ครบครับ เพราะนี่คือหัวใจสำคัญที่จะเปลี่ยนเว็บไซต์ธรรมดาให้กลายเป็นระบบที่โตได้ตลอดเวลาแบบมืออาชีพนะครับ

• มีเว็บไซต์ WordPress ที่แสดงตัวตนอย่างมืออาชีพ ไม่ใช่แค่มีเว็บไว้เฉย ๆ
• นำเสนอโปรไฟล์และผลงานที่สร้างความเชื่อมั่น ให้ลูกค้าเข้าใจว่าเราคือมืออาชีพตัวจริง
• จัดระบบทรัพย์สินให้ค้นหาและเปรียบเทียบได้ง่าย เพื่อให้ลูกค้าเข้าถึงสิ่งที่เขาต้องการ
• ออกแบบเว็บไซต์ให้ใช้งานง่ายทั้งบนมือถือและคอมพิวเตอร์ เพราะลูกค้าค้นหาทุกที่ทุกเวลา
• มีระบบติดตามลูกค้า (CRM) เบื้องต้น รองรับการเติบโตและสร้างโอกาสต่อยอด
• ใช้ฟอร์มที่ช่วยคัดกรองลูกค้าเบื้องต้น เพื่อให้โฟกัสกับลูกค้าที่พร้อมจริง ๆ
• สร้างแบรนด์นักอสังหาฯ ให้ชัดเจนบนเว็บไซต์ เป็นมากกว่าแค่นายหน้า
• เชื่อมโยงเว็บไซต์เข้ากับช่องทางขายที่เหมาะกับกลุ่มเป้าหมาย เพื่อขยายโอกาสได้กว้างขึ้น
• จัดการข้อมูลได้ด้วยระบบที่ไม่ต้องอาศัยแรงตัวเองทุกอย่าง ให้เว็บทำงานแทนคุณ 24 ชั่วโมง
• สร้างพื้นที่ที่ลูกค้าค้นหาเจอได้เสมอ ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนหรือเมื่อไหร่ครับ

คำแนะนำสุดท้ายจากผม ดี้ LandyCourse

นักอสังหาริมทรัพย์หลายคนที่มีความชำนาญในพื้นที่จริง อาจลืมนึกถึงสิ่งสำคัญที่กำลังเปลี่ยนโลกของการขายในยุคนี้ นั่นคือพื้นที่ของตัวเองบนโลกออนไลน์ครับ การที่เรารู้จักทุกทำเล แต่กลับไม่มีตัวตนบนโลกดิจิทัล มันคือจุดอ่อนที่ทำให้โอกาสไหลออกไปต่อหน้าตาโดยไม่รู้ตัว ลูกค้ายุคนี้เปลี่ยนพฤติกรรมไปหมดแล้ว ทุกอย่างเริ่มต้นจากการ “ค้นหา” ไม่ใช่การเดินหาใครสักคนเหมือนเมื่อก่อน ถ้าเราไม่มี เว็บไซต์สำหรับนักอสังหาริมทรัพย์ เป็นบ้านหลังหนึ่งที่รองรับการค้นหาเหล่านั้น โอกาสทุกอย่างก็จะผ่านหน้าเราไปหาคนที่มีความพร้อมกว่าทันทีครับ

สิ่งที่หลายคนยังไม่เห็น คือ เว็บไซต์ WordPress ไม่ได้เป็นแค่หน้าตาโชว์โปรไฟล์ แต่มันคือเครื่องมือที่ทรงพลังในการคัดกรองลูกค้า ช่วยเล่าเรื่องความเป็นมืออาชีพ และทำงานแทนเราได้ตลอด 24 ชั่วโมง มันทำหน้าที่ได้หลากหลายทั้งในเรื่องความน่าเชื่อถือ การแสดงตัวตน การให้ข้อมูลทรัพย์อย่างเป็นระบบ และที่สำคัญ มันทำให้ลูกค้ารู้สึกว่าเรา “พร้อมเสมอ” แม้จะไม่ได้อยู่หน้าจอด้วยตัวเองก็ตามนะครับ

สิ่งที่ผมอยากเน้นย้ำอีกอย่างคือ เว็บไซต์ไม่ใช่แค่มีไว้เฉย ๆ แล้วจบ แต่ควรมองให้ลึกถึง “ระบบรองรับ” ที่อยู่ข้างใน เพราะการเติบโตทางธุรกิจไม่ได้เกิดจากหน้าตาอย่างเดียว แต่มาจากการเชื่อมโยงข้อมูล การตอบสนองลูกค้า และการเก็บข้อมูลอย่างเป็นระบบ ถ้าเราสามารถเชื่อมเว็บไซต์เข้ากับ ระบบติดตามลูกค้า หรือจัดการฟอร์มการติดต่อให้มีประสิทธิภาพได้ สิ่งที่เกิดขึ้นก็คือเราจะเริ่มเห็นช่องทางใหม่ ๆ ที่ช่วยขยายธุรกิจได้โดยที่ไม่ต้องใช้แรงเพิ่มเลยครับ

อีกหนึ่งจุดที่สำคัญมากคือเรื่องของแบรนด์ครับ การที่เราอยากเติบโตจาก “นายหน้า” ธรรมดา ไปเป็นแบรนด์ที่คนไว้ใจ ต้องเริ่มจากการมีตัวตนที่ชัดเจน เว็บไซต์ที่มีเรื่องราว รีวิวลูกค้า และการออกแบบที่บ่งบอกความเป็นมืออาชีพ จะช่วยให้เรายืนหยัดได้แบบไม่ต้องพึ่งใคร และในระยะยาวมันจะกลายเป็นสินทรัพย์ที่ช่วยให้เรามีจุดยืนที่มั่นคงในอาชีพนี้มากยิ่งขึ้น ผมเชื่อว่าหลายคนไม่ได้อยากแค่ขายได้วันนี้ แต่ต้องการอยู่ในวงการอย่างมั่นคง และ สร้างแบรนด์อสังหา ที่เป็นของตัวเองอย่างแท้จริงครับ

ถ้าใครที่ยังรู้สึกว่า “ยังไม่พร้อมจะมีเว็บ” ผมอยากให้มองว่าเว็บไซต์ไม่ใช่สิ่งที่ต้องพร้อมก่อนถึงจะมี แต่มันคือสิ่งที่จะ “ทำให้เราเติบโต” ไปสู่ความพร้อมครับ ไม่ต้องรอให้มีทีมงานครบ หรือระบบใหญ่อะไร แค่เริ่มต้นจากเว็บไซต์ที่ออกแบบให้ตรงกับอาชีพเรา เชื่อมโยงกับ แพลตฟอร์มขายบริการ หรือช่องทางที่เราใช้งานจริง เท่านี้เราก็เริ่มสร้างบ้านดิจิทัลหลังแรกของเราได้แล้วครับ อย่าปล่อยให้ความลังเลดึงเวลาเราไว้นานเกินไปนะครับ เพราะคู่แข่งเราอาจกำลังสร้างบ้านหลังนั้นอยู่แล้วแบบเงียบ ๆ

สุดท้ายนี้สิ่งที่อยากฝากไว้คือ อย่าคิดว่าเว็บไซต์คือของแถม หรือของที่คนอื่นมีแล้วเราค่อยทำตาม แต่มองให้เห็นว่าเว็บไซต์คือสิ่งที่เราควรเป็นเจ้าของก่อนใคร เพราะมันคือการลงทุนที่ไม่ต้องเสียแรงทุกวัน แต่กลับสร้างผลตอบแทนกลับมาอย่างต่อเนื่อง ใครที่เริ่มไวจะได้เปรียบมาก และใครที่เริ่มเข้าใจความหมายของ “ตัวตนบนโลกออนไลน์” ก่อน ก็จะกลายเป็นคนที่ถูกค้นหาและถูกเลือกในวันที่ลูกค้าต้องการที่สุดครับ

อยากทักทายหรือสอบถาม ก็ทักไลน์มาคุยกับผมได้เลยนะครับ ^^
ดี้ LandyCourse