อาจารย์ไม่จำเป็นต้องรอมหาวิทยาลัยสร้างระบบให้ แต่ควรมีเว็บไซต์ของตัวเอง

ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา บทบาทของอาจารย์ในสังคมการศึกษากำลังเปลี่ยนแปลงไปอย่างมากครับ แต่สิ่งหนึ่งที่ยังคงเป็นความเข้าใจผิดของใครหลายคนก็คือ การที่คิดว่าอาจารย์จะต้องพึ่งระบบของมหาวิทยาลัยเท่านั้นในการสื่อสารกับนักศึกษา หรือเผยแพร่ความรู้ออนไลน์ ทั้งที่จริงแล้วโลกยุคดิจิทัลเปิดโอกาสให้เรา “มีพื้นที่ของตัวเอง” ได้อย่างอิสระครับ

เว็บไซต์ของอาจารย์ไม่ใช่แค่หน้าโปรไฟล์ธรรมดา แต่คือช่องทางที่สามารถบอกเล่าแนวคิด ถ่ายทอดองค์ความรู้ และเชื่อมต่อกับผู้เรียนได้โดยตรง โดยไม่ต้องผ่านระบบที่เต็มไปด้วยข้อจำกัด เช่น ต้องรอการอนุมัติ ต้องอยู่ในโครงสร้างขององค์กร หรือจำกัดฟังก์ชันในการใช้งาน ผมเองมองว่าการที่เรามีเว็บไซต์ของตัวเอง มันช่วยขยายกรอบความคิด และเพิ่มความคล่องตัวในการทำสิ่งใหม่ๆได้ดีมากเลยนะครับ

ห้องเรียนดิจิทัลเริ่มต้นที่หน้าเว็บไซต์: จุดเปลี่ยนบทบาทของอาจารย์ในโลกออนไลน์

ถ้าย้อนกลับไปสักสิบปีก่อน คงไม่มีใครคิดว่า “หน้าเว็บไซต์” จะกลายเป็นห้องเรียนแรกที่นักศึกษาหรือผู้สนใจเข้ามาเรียนรู้จากเราได้ครับ แต่ทุกวันนี้ พฤติกรรมของผู้คนเปลี่ยนไปอย่างชัดเจน เวลาจะเรียนรู้อะไรสักอย่าง เขาไม่ได้รอเข้าห้องเรียนแล้วค่อยทำความรู้จักกับอาจารย์อีกต่อไป ทุกอย่างเริ่มต้นจากการค้นหาข้อมูล แล้วไปเจอเว็บไซต์ของเรา หรือบทความที่เราเขียนไว้ก่อน

ตรงนี้แหละครับที่เว็บไซต์กลายเป็น “ประตูบานแรก” ที่พาเขาเข้ามาสู่โลกของเราจริงๆ ถ้าเราวางโครงเรื่องบนเว็บให้ดี ใส่เนื้อหาที่แสดงตัวตนของเราได้ชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นแนวทางการสอน ความถนัด หรือบทความที่สะท้อนความคิด มันจะช่วยให้ผู้เรียนรู้สึกว่าเขาได้รู้จักเรา และกล้าที่จะติดตามต่อไปครับ นี่คือจุดเปลี่ยนที่ทำให้อาจารย์ไม่ได้จำกัดตัวเองอยู่แค่หน้าชั้นเรียนอีกต่อไปแล้วนะครับ

และสิ่งที่หลายคนมองข้ามคือ เว็บไซต์สามารถสร้างความรู้สึก “ใกล้ชิด” ได้มากกว่าการใช้แพลตฟอร์มทั่วไป เพราะมันคือพื้นที่ของเราเองครับ เราเลือกได้ว่าอยากใส่อะไร อยากเล่าอะไร อยากชวนคนมาเรียนในแบบไหน ซึ่งความยืดหยุ่นแบบนี้แหละครับที่ทำให้เว็บไซต์เป็นเครื่องมือสำคัญที่อาจารย์ยุคใหม่ไม่ควรมองข้ามเลยนะครับ

โอกาสซ่อนอยู่! เว็บไซต์ส่วนตัวของอาจารย์ช่วยอะไรได้มากกว่าที่คิด

หลายคนยังเข้าใจว่าเว็บไซต์มีไว้แค่แสดงประวัติหรือรายชื่อวิชาที่สอนเท่านั้น แต่ความจริงแล้ว มันมีพลังมากกว่านั้นเยอะครับ เว็บไซต์สามารถเป็นเวทีให้เราแชร์ผลงาน งานวิจัย หรือแม้แต่บทความที่ถ่ายทอดแนวคิดได้อย่างเปิดเผย และนั่นแหละครับคือโอกาสที่หลายคนยังมองไม่เห็น

ลองนึกภาพดูนะครับ ถ้าเว็บไซต์ของเราเต็มไปด้วยเนื้อหาที่มีคุณภาพ เป็นประโยชน์ และสื่อถึงตัวตนของเราได้ดี วันหนึ่งอาจมีองค์กรเชิญไปบรรยาย มีผู้สนใจติดตามผลงานของเรา หรือมีคนที่อยากร่วมทำโปรเจกต์อะไรบางอย่างกับเรา ซึ่งทั้งหมดนี้เกิดขึ้นเพราะเราเปิดตัวเองไว้ในพื้นที่ออนไลน์อย่างถูกจุดครับ

เว็บไซต์ยังเป็นพื้นที่ที่เราสามารถสะสมฐานผู้ติดตามได้เรื่อยๆ โดยไม่จำเป็นต้องอยู่ภายใต้เงื่อนไขของแพลตฟอร์มกลาง และสิ่งนี้ช่วยเปิดโอกาสทั้งเรื่องการสื่อสาร การเผยแพร่ความรู้ และแน่นอนว่าโอกาสทางรายได้ก็เพิ่มขึ้นตามมาด้วยครับ โดยที่เราแทบไม่ต้องโฆษณาตัวเองเลยนะครับ แค่มีเว็บไซต์ที่จัดวางเนื้อหาดีๆ ก็ช่วยเปิดประตูใหม่ๆ ได้เยอะมากจริงๆ

เริ่มต้นวางโครงสร้างเว็บไซต์ของอาจารย์ให้ตอบโจทย์ทั้งผู้เรียนและสังคมการสอน

เวลาคิดจะทำเว็บไซต์สักเว็บหนึ่ง โดยเฉพาะสำหรับอาชีพอย่างอาจารย์ สิ่งที่ผมอยากให้คุณคิดไว้ตั้งแต่แรกเลยก็คือ เราไม่ได้ทำแค่ “เว็บสวยๆ” ครับ แต่เรากำลังสร้างพื้นที่ที่จะเป็นทั้งหน้าตา ความน่าเชื่อถือ และช่องทางสื่อสารหลักในยุคดิจิทัล ซึ่งการวาง โครงสร้างเว็บไซต์ ให้ตอบโจทย์ทั้งผู้เรียนและคนในวงการการศึกษาคือจุดเริ่มต้นที่สำคัญมากครับ เพราะถ้าเราวางให้ดีตั้งแต่ต้น เว็บจะใช้งานง่าย น่าเชื่อถือ และพัฒนาได้ระยะยาวไม่ต้องรื้อบ่อยๆ ครับ

• หน้าแนะนำตัว (About Page) – จุดเริ่มต้นของการสร้างความไว้ใจ ควรเขียนเล่าตัวตน ประสบการณ์ด้านการสอน รวมถึงเป้าหมายการใช้เว็บไซต์ให้ชัดเจนครับ
• หน้าวิชาหรือคอร์สเรียน (Courses Page) – ถ้าคุณมี คอร์สออนไลน์ หรือแม้แต่แค่แนะนำรายวิชาที่สอนอยู่ ควรจัดไว้แยกเป็นหมวดชัดเจน พร้อมคำอธิบายวิชาอย่างเข้าใจง่าย
• หน้าบทความหรือคลังความรู้ (Blog / Knowledge Base) – ตรงนี้เป็นพื้นที่สร้างคุณค่า แนะนำให้เขียนบทความให้ความรู้ แชร์ประสบการณ์การสอน หรืออธิบายแนวคิดทางการศึกษา
• หน้าผลงาน (Portfolio or Academic Works) – ถ้าคุณมีงานวิจัย ผลงานตีพิมพ์ หรือกิจกรรมทางวิชาการต่างๆ ควรทำหน้าเฉพาะที่รวบรวมไว้ เพื่อเสริมภาพลักษณ์ เว็บไซต์ส่วนตัว ให้ดูมืออาชีพมากขึ้นครับ
• หน้าคำแนะนำสำหรับผู้เรียน (Learning Guide / FAQ) – หน้านี้จะช่วยลดคำถามซ้ำๆ และเพิ่มความสะดวกให้ผู้เรียน โดยเฉพาะถ้าคุณมีการใช้ระบบ เว็บไซต์คอร์สออนไลน์ ที่มีหลายวิชา
• หน้าติดต่อ (Contact Page) – อย่าลืมสร้างช่องทางให้คนติดต่อคุณได้ง่าย เช่น ฟอร์มติดต่อ, อีเมล, หรือแม้แต่ช่องแชท เพราะนี่อาจเป็นจุดเริ่มต้นของโอกาสใหม่ๆ ที่คุณคาดไม่ถึงครับ
• หน้า Landing Page เฉพาะกิจ – ถ้ามีโปรโมชัน หรือเปิดคอร์สเฉพาะกิจบางช่วง คุณควรมีหน้า Landing Page สำหรับแคมเปญนั้นๆ ที่จัดข้อมูลเฉพาะเรื่องไว้ครบจบในหน้าเดียวครับ
• ระบบลงทะเบียนเรียน (Enrollment / Sign-Up) – ถ้าคุณมีการขายคอร์สหรือเปิดสอนแบบเป็นรอบๆ ควรมีระบบลงทะเบียนเรียนที่ใช้งานง่าย เชื่อมต่อกับระบบอีเมลหรือ SMS ได้ครับ
• โครงสร้างเมนูและการนำทาง (Navigation Structure) – อย่าให้เว็บไซต์รกหรือซับซ้อนเกินไปครับ ใช้โครงสร้างที่เรียบง่ายและมีลำดับชัดเจน เพื่อให้ผู้ใช้รู้ว่าควรเริ่มจากตรงไหน
• Responsive Design และการใช้งานผ่านมือถือ – ทุกวันนี้คนเข้าเว็บผ่านมือถือมากกว่าคอมฯ ดังนั้นโครงสร้างเว็บที่คุณสร้างควรรองรับทุกอุปกรณ์และไม่ผิดเพี้ยนครับ

เมื่อคุณวางโครงสร้างเว็บไซต์แบบนี้แล้ว คุณจะเห็นเลยครับว่าเว็บไซต์ของคุณไม่ใช่แค่โชว์ข้อมูล แต่คือระบบนิเวศแห่งการเรียนรู้ที่เปิดกว้างและเติบโตได้อย่างมีทิศทาง เพราะทุกหน้า ทุกเมนู ล้วนออกแบบมาอย่างมีเป้าหมายชัดเจน ไม่ใช่แค่ใส่ไว้เพราะเว็บอื่นเขามีกัน ผมเชื่อว่าถ้าคุณใส่ใจกับโครงสร้างตั้งแต่แรก เว็บไซต์ของคุณจะพร้อมรองรับทุกบทบาท ทั้งการสอน การสร้างรายได้ และการเติบโตอย่างยั่งยืนในฐานะ อาจารย์ ที่เข้าใจโลกดิจิทัลจริงๆ ครับ

เนื้อหาคุณค่าอยู่ที่มือคุณ: วิธีจัดวางคอนเทนต์เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ

พอเรามีโครงสร้างเว็บไซต์ที่ชัดเจนแล้ว สิ่งถัดมาที่สำคัญไม่แพ้กันก็คือการเลือกเนื้อหาและการจัดวางคอนเทนต์ครับ เพราะสิ่งที่ทำให้เว็บไซต์ดูน่าเชื่อถือ ไม่ได้อยู่ที่การตกแต่งสวยงามเพียงอย่างเดียว แต่คือวิธีที่เราสื่อสารข้อมูลอย่างเป็นระบบ และดูจริงใจครับ

เริ่มต้นจากการเขียนเนื้อหาที่สะท้อนความคิดของเราจริงๆ ไม่ใช่แค่ก๊อบข้อความจากแหล่งอื่นมาแปะ เพราะคนอ่านเขารับรู้ได้ครับว่าอะไรคือของจริง อะไรคือของวางไว้เฉยๆ ลองใช้พื้นที่ในเว็บไซต์แบ่งเนื้อหาออกเป็นส่วนๆ เช่น บทความแนะแนว, ข้อคิดจากการสอน, หรือแม้แต่ประสบการณ์ที่เคยเจอในคลาสเรียนก็สามารถเล่าได้ทั้งหมดนะครับ

อีกอย่างที่สำคัญคือการจัดเรียงให้อ่านง่าย ไม่ต้องแน่นเกินไป หรือใช้ศัพท์วิชาการเยอะจนเกินจำเป็นครับ เพราะเป้าหมายของเราคือการสื่อสารกับผู้คน ไม่ใช่โชว์ความรู้แบบตีกรอบ ถ้าใช้ภาษาง่ายๆแต่จริงใจ ผมเชื่อว่าคนอ่านจะเข้าใจและรู้สึกเข้าถึงตัวเรามากขึ้นนะครับ

เปลี่ยนเว็บไซต์เป็นพื้นที่ปั้นแบรนด์ความรู้ของตัวเอง โดยไม่ต้องพึ่งทีมไอที

หลายคนอาจกลัวว่าอยากมีเว็บไซต์แต่ไม่มีทีมไอที ไม่มีเวลาศึกษาเทคโนโลยี ผมอยากบอกว่า วันนี้คุณไม่จำเป็นต้องเป็นนักพัฒนาเว็บก็สร้างเว็บไซต์ได้ครับ ด้วยระบบสำเร็จรูปอย่าง WordPress หรือการใช้เว็บโคลนที่ตั้งค่าทุกอย่างไว้ให้แล้ว เราแค่เอาเนื้อหาของเราลงไป ก็สามารถเริ่มต้นได้ทันทีเลยนะครับ

ที่สำคัญคือ เว็บไซต์เหล่านี้สามารถปรับแต่งให้สะท้อนตัวตนของเราได้เต็มที่ ไม่ว่าจะเป็นภาพ สี รูปแบบการนำเสนอ หรือฟังก์ชันต่างๆ ที่รองรับคอร์สออนไลน์หรือบล็อกความรู้ก็สามารถเพิ่มเข้าไปได้ง่ายมากครับ ถ้าเราออกแบบด้วยความตั้งใจ มันจะกลายเป็นพื้นที่ที่คนรู้สึกอยากกลับมาเยี่ยมชมซ้ำแน่นอนครับ

ตรงนี้แหละครับที่ทำให้เว็บไซต์กลายเป็นเครื่องมือ “ปั้นแบรนด์ความรู้” ของอาจารย์ได้อย่างแท้จริง เพราะมันคือภาพสะท้อนตัวตนของเราในโลกออนไลน์ ถ้าเราใช้ให้ถูกจังหวะ มันจะกลายเป็นพลังที่ช่วยเสริมทั้งภาพลักษณ์และโอกาสทางวิชาชีพในระยะยาวได้เลยครับ

จากสอนในห้องเรียน สู่คอร์สออนไลน์: สร้างรายได้เสริมจากองค์ความรู้ที่มี

ถ้าใครยังไม่เคยลอง ผมอยากชวนให้ลองเปลี่ยนความรู้ที่เคยสอนในห้องเรียนมาแปลงเป็นคอร์สออนไลน์ดูครับ ไม่ต้องคิดซับซ้อน ไม่ต้องลงทุนเยอะ เริ่มจากหัวข้อที่คุณถนัดที่สุด แล้วแตกเนื้อหาออกเป็นตอนๆ ก็เพียงพอแล้วที่จะเริ่มต้นครับ

เว็บไซต์ของเรานี่แหละครับคือพื้นที่สำหรับโปรโมตคอร์สออนไลน์ได้ดีที่สุด เพราะเราไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียมแพลตฟอร์มกลาง ไม่ต้องไปแย่งพื้นที่กับคอร์สอื่นๆ และสามารถออกแบบทุกอย่างได้เองหมดเลยครับ ที่สำคัญคือคนที่เข้ามาก็มักเป็นกลุ่มที่ติดตามหรือเชื่อใจเราอยู่แล้ว ซึ่งทำให้การขายคอร์สกลายเป็นเรื่องธรรมชาติ ไม่ฝืนเลยนะครับ

การเปิดคอร์สออนไลน์ยังช่วยขยายการเข้าถึงองค์ความรู้ของเราไปได้ไกลมากขึ้น ไม่จำกัดอยู่แค่ในห้องเรียนหรือเวลาเรียนอีกต่อไปครับ ผมเชื่อว่าถ้าเราทำให้ดี มีคุณภาพ และสื่อสารอย่างจริงใจ รายได้เสริมที่ตามมาจะเป็นผลพลอยได้ที่ยั่งยืน และที่สำคัญคือเรายังได้ส่งต่อความรู้ให้กับคนอีกมากมายที่อาจไม่เคยมีโอกาสเข้าถึงเราในห้องเรียนเลยครับ

เว็บไซต์ของอาจารย์ไม่ใช่แค่โชว์ประวัติ แต่คือการสร้างอนาคตของวิชาชีพ

ผมอยากชวนให้อาจารย์ทุกคนมองเว็บไซต์เป็นมากกว่าแค่หน้าโปรไฟล์หรือพื้นที่โชว์ใบประกาศครับ แต่ให้มองว่าเว็บไซต์คือการ “วางรากฐาน” สำหรับอนาคตของตัวเองในวิชาชีพนี้ ไม่ว่าคุณจะเป็นอาจารย์มหาวิทยาลัย อาจารย์พิเศษ หรือแม้แต่ติวเตอร์อิสระ เว็บไซต์คือพื้นที่ที่คุณควบคุมได้ และขับเคลื่อนได้ด้วยตัวเองนะครับ

ในยุคที่การเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นเร็วมาก โอกาสใหม่ๆก็เกิดขึ้นตลอดเวลา ถ้าเรามีเว็บไซต์ที่ดี มีคอนเทนต์ที่ช่วยสร้างความเชื่อมั่น เราจะพร้อมรับโอกาสเหล่านั้นได้ตลอดเวลาโดยไม่ต้องพึ่งโชคหรือระบบภายนอกครับ เพราะเราคือเจ้าของพื้นที่ของตัวเอง ที่พร้อมจะสื่อสารกับโลกใบนี้ในแบบที่เราอยากให้เป็นครับ

ลองคิดดูนะครับว่า ถ้าเรามีเว็บไซต์ที่ไม่ใช่แค่โชว์ว่าเราเป็นใคร แต่เป็นพื้นที่ที่สะสมผลงาน ถ่ายทอดแนวคิด และเชิญชวนให้ผู้คนมาร่วมเรียนรู้ไปกับเราได้ มันจะมีคุณค่ามากขนาดไหน และผมเชื่อว่าเส้นทางวิชาชีพของเราจะมั่นคงยิ่งขึ้นครับ เพราะเราไม่ต้องรอใครมาสร้างอนาคตให้ แต่ออกแบบมันได้ด้วยมือของเราเองนะครับ

กุญแจสู่ความสำเร็จ (Key to Success)

ลองนึกภาพว่าคุณเป็นอาจารย์ที่อยากใช้เว็บไซต์เป็นมากกว่าพื้นที่โชว์โปรไฟล์ แต่เป็นเครื่องมือเปลี่ยนชีวิตและวิชาชีพของคุณให้เติบโตได้จริงๆนะครับ ถ้าคุณเข้าใจหัวใจของแต่ละหัวข้อในบทความนี้แล้ว ผมขอถอดรหัส “กุญแจสู่ความสำเร็จ” ที่จะช่วยให้อาจารย์ไทยยุคใหม่ใช้เว็บไซต์เรียนออนไลน์หรือเว็บไซต์คอร์สออนไลน์ของตัวเองได้อย่างมีพลังครับ

• กล้าคิดนอกกรอบระบบมหาวิทยาลัย – อย่ารอระบบจากองค์กร เริ่มต้นสร้างเว็บไซต์ของตัวเองเพื่อแสดงตัวตนและสื่อสารกับโลกออนไลน์ได้เลยครับ
• วางเว็บไซต์ให้เป็น “ห้องเรียนแรก” – เปลี่ยนหน้าเว็บให้เป็นพื้นที่แนะนำตัว ถ่ายทอดแนวคิด และสร้างความสัมพันธ์กับผู้เรียนตั้งแต่แรกพบครับ
• ใช้เว็บไซต์เปิดโอกาสทางวิชาชีพ – สร้างเนื้อหาที่บอกเล่าความรู้จริงใจ ช่วยให้ได้รับโอกาสใหม่ๆ อย่างงานอบรม งานเขียน หรือการบรรยายครับ
• ออกแบบโครงสร้างเว็บให้ใช้งานง่าย – มีหน้าแนะนำตัว, คอร์สออนไลน์, ผลงานวิจัย และบทความที่ช่วยให้ผู้เรียนเข้าใจคุณมากขึ้นครับ
• จัดวางคอนเทนต์ให้ดูมืออาชีพ – เขียนเนื้อหาที่มีคุณภาพ ใช้ภาษาที่คนเข้าถึงได้ง่าย และสร้างความเชื่อมั่นในความเป็นครูของคุณครับ
• เลือกเครื่องมือสร้างเว็บไซต์ที่ไม่ซับซ้อน – ใช้ WordPress หรือเว็บโคลนที่ตั้งค่าพร้อมแล้ว ไม่ต้องมีพื้นฐานไอทีเลยก็ทำได้ครับ
• แตกองค์ความรู้เป็นคอร์สออนไลน์ – ใช้เว็บไซต์ของคุณเปิดคอร์ส สร้างรายได้เสริมจากความรู้ที่คุณมีอยู่แล้วนะครับ
• ลงทุนเว็บไซต์เพื่ออนาคตระยะยาว – เว็บไซต์ไม่ใช่แค่หน้าตา แต่คือการวางรากฐานอาชีพให้คุณเป็น “ครูที่โลกต้องรู้จัก” ครับ

ทุกข้อที่ผมยกมานี้ ไม่ใช่แค่เทคนิคการใช้เว็บไซต์นะครับ แต่มันคือแนวทางที่ช่วยให้คุณเปลี่ยนบทบาทของตัวเองจากอาจารย์ในระบบ มาเป็นผู้สอนที่สร้างคุณค่าอย่างอิสระในโลกดิจิทัล ถ้าคุณเข้าใจและลงมือทำ มันจะกลายเป็นการเปลี่ยนแปลงที่ทรงพลังมากจริงๆครับ

คำแนะนำสุดท้ายจากผม ดี้ LandyCourse

ผมอยากเริ่มต้นด้วยการพูดจากใจจริงครับว่า ถ้าคุณเป็นอาจารย์ ไม่ว่าคุณจะสอนในมหาวิทยาลัย เป็นติวเตอร์อิสระ หรือแค่มีความรู้ที่อยากแบ่งปัน ผมขอให้คุณมองว่า “เว็บไซต์” ไม่ใช่เรื่องไกลตัวอีกต่อไปแล้วนะครับ แต่คือเครื่องมือที่ช่วยเปลี่ยนวิชาชีพของคุณให้กลายเป็นสิ่งที่มีพลังมากกว่าที่เคยเป็น เพราะในยุคที่เทคโนโลยีเปลี่ยนแปลงเร็ว และการเรียนรู้ไม่ได้จำกัดอยู่แค่ในห้องเรียนอีกต่อไป สิ่งที่ทำให้คุณเชื่อมต่อกับผู้คนได้แบบไร้ขอบเขตก็คือ เว็บไซต์เรียนออนไลน์ ที่คุณสร้างขึ้นมาด้วยความเข้าใจในตัวเองและผู้เรียนครับ

จากสิ่งที่ผมได้สรุปมาทั้งหมด ผมอยากชวนให้คุณลองกลับมามองเว็บไซต์ในมุมใหม่ มันไม่ใช่แค่ที่แสดงโปรไฟล์หรือโชว์ประวัติการสอน แต่มันคือบ้านที่คุณสามารถออกแบบให้เป็นพื้นที่สื่อสารความคิด ถ่ายทอดองค์ความรู้ และสร้างความเชื่อมโยงกับผู้คนที่อยู่นอกขอบเขตของห้องเรียนครับ การที่คุณมี เว็บไซต์ส่วนตัว ที่สะท้อนตัวตนของคุณอย่างแท้จริง จะทำให้ผู้เรียนรู้จักคุณในแบบที่เขาไม่เคยรู้จักมาก่อน และที่สำคัญ มันจะทำให้ความรู้ของคุณมีคุณค่ามากขึ้นในสายตาของผู้คนที่คุณไม่เคยรู้เลยว่าเขารอคุณอยู่

สิ่งหนึ่งที่หลายคนมองข้ามคือ เว็บไซต์ไม่ได้มีไว้เพื่อขายของหรือโชว์ผลงานเท่านั้นครับ แต่มันเป็นพื้นที่ที่คุณสามารถใช้สร้างความเชื่อมั่นจากเนื้อหาที่คุณใส่ลงไปในนั้น ทุกบทความที่เขียน ทุกคอร์สที่เปิดสอน และทุกการแนะนำที่คุณใส่ใจ มันคือการบอกให้คนที่เข้ามาเยี่ยมชมรู้ว่า คุณคือคนที่ตั้งใจจริงในการสื่อสารกับโลกนี้ผ่านช่องทางที่คุณควบคุมได้เอง ไม่ต้องรอมหาวิทยาลัย ไม่ต้องรอหน่วยงาน คุณเริ่มต้นได้เลยวันนี้ครับ แค่คุณมีใจและมองเห็นโอกาสในสิ่งเล็กๆ อย่างการมี เว็บไซต์คอร์สออนไลน์ ที่สร้างด้วยความเข้าใจ

ผมรู้ดีว่าหลายคนอาจจะกลัวเรื่องเทคนิค ไม่รู้จะเริ่มยังไง ไม่มีทีมไอที หรือไม่ถนัดเรื่องเทคโนโลยีเลย ผมขอพูดตรงๆ จากใจว่า คุณไม่จำเป็นต้องเก่งเทคโนโลยีครับ วันนี้มีหลายวิธีที่ช่วยให้คุณเริ่มต้นได้ง่ายขึ้นมาก ไม่ว่าจะเป็นการใช้ WordPress หรือการใช้เว็บโคลนที่มีระบบพร้อมใช้งาน คุณแค่เอาความรู้ ความคิด และประสบการณ์ของคุณมาวางลงในพื้นที่นั้น แล้วโลกจะได้รู้จักคุณในแบบที่คุณอยากให้เขารู้จักครับ บางทีแค่หน้าเว็บไซต์ดีๆ หน้าเดียว ก็อาจทำให้คุณได้โอกาสใหม่ในชีวิตที่คุณไม่เคยคาดคิดมาก่อนเลยนะครับ

บทความทั้งหมดที่ผมเล่ามานี้ ไม่ได้ต้องการให้คุณต้องรีบลงมือทำอะไรในทันทีนะครับ แต่อยากให้คุณเข้าใจว่า การมีเว็บไซต์คือการเริ่มต้นสร้างความมั่นคงให้กับตัวเองอย่างเงียบๆ แต่ทรงพลังมาก ถ้าคุณทำไปเรื่อยๆ ปรับปรุงมันอย่างต่อเนื่อง ใช้เพื่อแชร์ความรู้ สร้างคอร์สที่ตอบโจทย์ สะท้อนตัวตน และเข้าใจผู้เรียน ผมเชื่อว่าเส้นทางของคุณจะไม่เหมือนเดิมอีกต่อไปเลยครับ เพราะคุณไม่ได้แค่สอนในห้องเรียน แต่คุณกำลังสร้างโลกของความรู้อีกใบขึ้นมาด้วยมือของคุณเอง และโลกใบนั้นจะอยู่ได้นานเท่านานครับ

อยากทักทายหรือสอบถาม ก็ทักไลน์มาคุยกับผมได้เลยนะครับ ^^
“ดี้ LandyCourse”