เชฟที่ขายจานโปรดได้ทุกวัน…อาจเริ่มมองหา “ระบบที่ขายความรู้” ได้เหมือนกัน
ผมเชื่อว่าหลายคนที่เป็นเชฟ คงรู้สึกคุ้นเคยกับการทำอาหารขายทุกวันใช่มั้ยครับ ไม่ว่าจะเป็นร้านเล็กหรือร้านใหญ่ การทำอาหารให้อร่อยจนลูกค้าติดใจมันคือความสามารถเฉพาะตัวเลยนะครับ แต่เคยลองมองกลับมาบ้างไหมครับว่า…นอกจากจะขายจานเด็ดแล้ว ความรู้ที่เรามีอยู่ทุกวันในหัวนี่แหละ คือสินค้าที่ขายได้เหมือนกัน ผมไม่ได้พูดเล่นนะครับ เพราะตอนนี้มีเชฟหลายคนที่เริ่มเอาความรู้ในครัวมาเปลี่ยนเป็นคอร์สออนไลน์ แล้วก็สามารถมีรายได้อีกทางได้แบบไม่ต้องอยู่หน้าร้านทุกวันเลยครับ ฟังดูน่าสนใจใช่ไหมครับ เดี๋ยวผมจะค่อย ๆ เล่าให้ฟังนะครับ ว่ามันเป็นยังไงบ้าง
เมื่อความอร่อยขายได้ทุกวัน…ทำไมความรู้ของเชฟจะขายไม่ได้?
ลองนึกดูดีๆนะครับ ทุกวันที่เรายืนอยู่หน้ากระทะ หรือกำลังจัดจานสวยๆ อยู่นั้น ความรู้ที่เราสั่งสมมาไม่ได้หายไปไหนเลยครับ มันอยู่กับเราเสมอ และมันเป็นสิ่งที่คนอื่นอยากเรียนรู้มากเลยด้วย โดยเฉพาะคนที่ฝันอยากเปิดร้าน หรืออยากทำอาหารเก่งแบบเรา ความรู้แบบนี้แหละ ที่เปลี่ยนเป็น “สินค้า” ได้ทันทีครับ ไม่ต้องลงทุนเพิ่ม ไม่ต้องซื้อวัตถุดิบใหม่ แค่เอาสิ่งที่มีในหัว มาจัดเป็นบทเรียนให้น่าเรียน แค่นั้นเองครับ
ผมไม่ได้บอกว่าทุกคนต้องมาสอนอาหารนะครับ แต่ว่าเชฟหลายคนไม่รู้ตัวเลยว่าความรู้ของตัวเองมีคุณค่ามากแค่ไหน ทุกเทคนิคที่เราใช้ประจำ ทุกเคล็ดลับที่ทำให้อาหารออกมาอร่อย หรือแม้แต่การวางแผนเมนูรายวัน ทุกอย่างล้วนมีคนอยากรู้ อยากเรียน แล้วพร้อมจ่ายเงินเพื่อเรียนกับคนที่มีประสบการณ์จริงแบบเราเลยครับ
จุดเปลี่ยนของเชฟยุคใหม่: จากหลังครัวสู่หน้าจอ
สมัยก่อนอาชีพเชฟอาจจะถูกมองว่าอยู่หลังครัว ไม่ค่อยออกสื่อ แต่เดี๋ยวนี้ไม่ใช่แบบนั้นแล้วครับ เชฟหลายคนเริ่มปรับตัว สื่อสารกับลูกค้าโดยตรงผ่านโซเชียล และที่สำคัญไปกว่านั้นคือ เริ่มมองเห็นว่า “การแบ่งปันความรู้” มันสามารถเป็นอาชีพอีกทางได้ด้วยนะครับ ผมเห็นเชฟหลายคนเริ่มจากคลิปทำอาหารง่ายๆ แล้วกลายเป็นมีผู้ติดตามเป็นหมื่น พอถึงจุดหนึ่ง พวกเขาก็เริ่มสร้างคอร์สของตัวเอง และกลายเป็นรายได้แบบจริงจังเลยครับ
มันคือเทรนด์ที่กำลังมาแรงมากครับ คนทั่วโลกเริ่มเรียนออนไลน์มากขึ้นเรื่อยๆ ไม่ใช่แค่สายเทคโนโลยี แต่รวมถึงสายทำอาหารด้วยครับ เพราะคนอยากเรียนจากผู้เชี่ยวชาญจริง ๆ ไม่ใช่จากตำราที่หาข้อมูลได้ในกูเกิล เชฟที่ออกจากหลังครัวมาเล่าเรื่องอาหารของตัวเองได้ มีโอกาสสูงมากที่จะสร้างฐานแฟนคลับและผู้เรียนแบบระยะยาวครับ
อย่ารอให้คนอื่นเริ่มก่อนครับ ถ้าเรารู้ว่าตัวเองมีอะไรดีในมือ ลองก้าวขึ้นมาหนึ่งก้าวก่อน อาจจะเริ่มจากวิดีโอสั้นๆ หรือบทความเล่าเรื่องอาหาร แล้วค่อยๆ วางโครงสร้างให้กลายเป็นคอร์สที่ขายได้ครับ
เชฟก็สร้างคอร์สสอนทำอาหารได้ ไม่ต้องเก่งเทคโนโลยี
มีเชฟหลายคนเลยนะครับที่ลังเลจะเริ่ม เพราะคิดว่า “เราไม่เก่งคอม ไม่รู้เรื่องเทคโนโลยีเลย จะสร้างคอร์สได้เหรอ?” ผมเข้าใจความกังวลนี้ดีเลยครับ แต่ขอบอกตรงนี้เลยว่า ตอนนี้มีแพลตฟอร์มมากมายที่ออกแบบมาให้เชฟใช้งานง่ายๆ แบบไม่ต้องมีพื้นฐานอะไรเลยครับ การจัดเรียงบทเรียน การอัปโหลดวิดีโอ การตั้งราคาคอร์ส ทุกอย่างมีระบบช่วยเกือบหมด ขอแค่เรามีเนื้อหาพร้อมแชร์ ก็สามารถเริ่มได้เลยครับ
แค่คุณมีสูตรเด็ด มีเมนูที่ทำบ่อย และสามารถเล่าเรื่องเป็นขั้นตอน ก็เพียงพอสำหรับการเริ่มต้นแล้วครับ เชฟไม่ต้องกลัวว่า “ฉันไม่รู้จักคอม ฉันทำไม่ได้” เพราะวันนี้มันไม่ได้ยากเหมือนเมื่อก่อนอีกแล้วครับ ขอเพียงตั้งใจจริง และมีแนวคิดอยากส่งต่อความรู้ ระบบมันจะช่วยคุณทำสิ่งที่เหลือเองครับ
เริ่มจากอะไรดี? วางโครงสร้างคอร์สจากเมนูที่คุณเชี่ยวชาญ
หนึ่งในความท้าทายแรกของเชฟที่อยากสร้าง คอร์สออนไลน์ คือการเริ่มต้นครับ เพราะแม้จะมีความรู้เต็มหัว มีสูตรเด็ดอยู่ในมือ แต่ถ้าไม่มีโครงสร้างที่ชัดเจน ก็ยากที่จะทำให้คนเรียนเข้าใจอย่างเป็นระบบ การวางโครงสร้างคอร์ส (Course Structure) ที่ดี ไม่ได้แค่จัดเรียงเนื้อหาเท่านั้นนะครับ แต่มันคือการสร้างเส้นทางการเรียนรู้ (Learning Path) ที่ชัดเจน ซึ่งจะช่วยให้ผู้เรียนไปถึงเป้าหมายได้แบบมีทิศทาง วันนี้ผมจึงอยากสรุปองค์ประกอบสำคัญของการออกแบบโครงสร้างคอร์ส ที่คุณสามารถนำไปใช้ได้ทันทีครับ
- เริ่มจากเมนูที่คุณถนัดที่สุด เพราะนั่นคือสูตรที่คุณเข้าใจลึกที่สุด และสามารถอธิบายได้ชัดเจนที่สุดครับ
- กำหนด Learning Outcome (ผลลัพธ์การเรียนรู้) ให้ชัดเจน ว่าคนเรียนจะได้อะไรเมื่อเรียนจบคอร์ส
- จัดเนื้อหาเป็น Module หรือ Chapter เช่น เริ่มจากเตรียมวัตถุดิบ เทคนิคการเตรียม การปรุง และการจัดจาน
- ใช้สูตรที่มีคนถามบ่อย (Most Asked Recipes) เพื่อสร้างแรงจูงใจให้คนอยากสมัครเรียนครับ
- วางลำดับความยากง่าย แบบ Progressive Design เริ่มจากพื้นฐานไปถึงเทคนิคเฉพาะตัว
- แทรก Checklist หรือ Worksheet สำหรับผู้เรียน เพื่อให้เขาทำตามได้ทีละขั้นตอน
- ใช้ Video Lesson เป็นหลัก เพราะผู้เรียนจะเห็นภาพชัด และเรียนรู้ได้เร็วกว่าเนื้อหาที่เป็นตัวอักษร
- สอดแทรก Storytelling เช่น เรื่องราวเบื้องหลังของสูตร หรือแรงบันดาลใจจากเมนูนั้นๆ
- กำหนด Assignment หรือ Challenge ให้ผู้เรียนลองทำจริง แล้วส่งกลับมาให้คุณดูได้ (ถ้าระบบรองรับ)
- สร้างพื้นที่ให้ผู้เรียนถาม-ตอบ เช่น Q&A Section หรือ Community ภายใน เว็บไซต์คอร์สออนไลน์ ของคุณ
- ปิดท้ายด้วยการทบทวน (Review Section) เพื่อช่วยผู้เรียนจดจำและเชื่อมโยงทุกบทเรียนเข้าด้วยกันครับ
- ใส่ Bonus Content เช่น สูตรพิเศษเฉพาะคนเรียน หรือเคล็ดลับที่ไม่ได้เปิดเผยที่อื่น
- ตั้งชื่อ Module ให้น่าดึงดูด เช่น “ปลุกชีพกะเพราให้แซ่บยิ่งกว่าเดิม” แทน “สอนทำกะเพรา” แบบเดิม ๆ
เปลี่ยนครัวให้เป็นคลาสเรียนออนไลน์ ด้วยเว็บไซต์ของตัวเอง
หลายคนคิดว่าเราต้องมีสตูดิโอหรู ๆ หรือมีทีมงานมาช่วยถ่ายวิดีโอถึงจะทำคอร์สออนไลน์ได้ใช่ไหมครับ จริง ๆ แล้วไม่ต้องขนาดนั้นเลยครับ แค่มีพื้นที่ในครัวของเรา มีโทรศัพท์กล้องดี ๆ สักเครื่อง กับเว็บไซต์ที่ใช้งานง่าย เราก็เปลี่ยนครัวให้เป็นคลาสออนไลน์ได้แล้วครับ มันไม่ต่างอะไรกับการเปิดร้านขายอาหารเลยครับ แค่เปลี่ยนจากทำอาหารให้ลูกค้าทาน มาเป็นทำอาหารให้คนเรียนรู้แทนก็เท่านั้น
เว็บไซต์คือหัวใจสำคัญเลยครับ เพราะมันคือหน้าร้านในโลกออนไลน์ คนที่สนใจอยากเรียนกับเราจะเข้ามาดูข้อมูล อ่านรายละเอียด ดูเมนูที่เราเปิดสอน และสมัครเรียนผ่านตรงนั้นได้เลย ซึ่งข้อดีคือเราควบคุมทุกอย่างได้เองครับ ตั้งแต่ราคาคอร์สไปจนถึงการจัดหน้าเพจ พอเรามีเว็บไซต์ของตัวเองแล้ว มันก็เหมือนเรามีพื้นที่ของตัวเองที่พร้อมให้คนทั่วประเทศเข้ามาเรียนกับเราได้ตลอดเวลาเลยครับ
อยากให้ทุกคนมองว่ามันคือการลงทุนที่คุ้มค่านะครับ เพราะเว็บไซต์ไม่ได้แค่ขายคอร์ส แต่มันยังสะท้อนภาพลักษณ์ของความเป็นมืออาชีพในฐานะเชฟผู้สอนอีกด้วยครับ ยิ่งเราทำให้ดูน่าเชื่อถือ คนก็ยิ่งมั่นใจว่าเรียนกับเราแล้วจะได้ของดีจริง ๆ
ระบบช่วยขายคอร์สของเชฟที่ไม่ต้องไลฟ์สดทุกวัน
ผมเข้าใจเลยครับว่าหลายคนกลัวว่าจะต้องมานั่งไลฟ์สดทุกวัน จะต้องพูดกับกล้องแบบไม่มีคนตอบ จะเหนื่อย จะเขิน จะไม่มีเวลาทำอาหารด้วยซ้ำ จริง ๆ แล้วไม่จำเป็นต้องไลฟ์สดตลอดเวลาหรอกครับ ตอนนี้มีระบบเรียนแบบอัตโนมัติ ที่ผู้เรียนสามารถเข้าเรียนตอนไหนก็ได้ เรียนซ้ำกี่รอบก็ได้ โดยที่เราแค่อัดวิดีโอไว้ครั้งเดียว แล้วปล่อยให้ระบบจัดการแทน
นอกจากนี้ยังมีระบบช่วยขายอีกหลายอย่างครับ เช่น ระบบอีเมลติดตามคนที่เคยเข้ามาดูแต่ยังไม่สมัคร ระบบแจกคูปอง ระบบสมาชิก หรือแม้แต่ระบบชำระเงินอัตโนมัติ ทุกอย่างช่วยให้เราขายได้แบบไม่ต้องนั่งเฝ้าหน้าจอทุกวัน เราสามารถเอาเวลาไปทำอย่างอื่น เช่น พัฒนาสูตรใหม่ หรืออัดคลิปสั้น ๆ เพิ่ม เพื่อเพิ่มคุณค่าให้คอร์สของเราครับ
ผมอยากบอกว่านี่แหละครับคือจุดแข็งของการขายคอร์สออนไลน์สำหรับเชฟ เราไม่ต้องเหนื่อยทุกวันเหมือนขายอาหารตามสั่ง แต่สามารถทำงานครั้งเดียว แล้วให้ระบบช่วยขายซ้ำไปเรื่อย ๆ ได้เลยครับ
สร้างแบรนด์ตัวเองให้คนอยากเรียนกับคุณ
มีคอร์สดีแค่ไหนก็ไม่พอครับ ถ้าไม่มีใครรู้จักเรา เพราะฉะนั้นการสร้างแบรนด์จึงเป็นสิ่งที่สำคัญมากครับ โดยเฉพาะในวงการอาหารที่ภาพลักษณ์มีผลต่อความเชื่อมั่นของคนเรียนมาก ผมแนะนำให้เริ่มจากการเล่าเรื่องของตัวเองครับ ว่าเราเป็นเชฟที่มีประสบการณ์ยังไง ผ่านอะไรมาบ้าง จุดเริ่มต้นของสูตรอาหารที่ใช้คืออะไร พอมีเรื่องราว คนจะเริ่มรู้สึกผูกพันกับเรามากขึ้นครับ
อีกสิ่งหนึ่งที่ช่วยได้เยอะมากคือการออกแบบคอร์สให้น่าสนใจครับ ตั้งชื่อคอร์สให้โดนใจ ใช้ภาพอาหารที่ถ่ายจากครัวจริงของเรา ใช้ภาษาพูดที่เป็นกันเอง และชี้ให้เห็นว่าเรียนกับเราจะได้ประสบการณ์แบบไหนบ้าง การสื่อสารที่ตรงใจ จะช่วยสร้างความน่าเรียน และทำให้คนแชร์ต่อกันเองได้ด้วยครับ
สิ่งเหล่านี้รวมกันจะค่อย ๆ สร้างแบรนด์ให้เรากลายเป็น “เชฟที่อยากเรียนด้วย” ครับ ไม่ใช่แค่เชฟที่ทำอาหารอร่อย แต่เป็นเชฟที่ถ่ายทอดได้ดี และเป็นมิตรกับผู้เรียนด้วยครับ
เชฟแบบคุณ ก็เปลี่ยนความรู้ให้ทำเงินได้ทุกวัน
ผมอยากให้เราลองกลับมามองความรู้ในตัวเองอีกครั้งนะครับ ว่ามันมีคุณค่ามากแค่ไหน ทุกสูตรที่เราลองผิดลองถูกมา ทุกเทคนิคที่ทำให้อาหารเราต่างจากคนอื่น ทุกเคล็ดลับที่เราสะสมมาในชีวิตการทำอาหาร ล้วนเป็นสิ่งที่คนอื่นอยากรู้ และอยากจ่ายเงินเพื่อเรียนรู้ครับ ไม่ใช่เรื่องไกลตัวเลย และไม่จำเป็นต้องเป็นเชฟดัง ๆ ถึงจะทำได้นะครับ
สิ่งที่สำคัญคือ “ลงมือเริ่ม” ครับ ไม่ต้องรอให้พร้อม 100% เพราะไม่มีใครพร้อมเต็มร้อยอยู่แล้วครับ เริ่มจากสิ่งที่ถนัด แบ่งปันแบบจริงใจ แล้วใช้เครื่องมือที่เหมาะกับเรา ก็เพียงพอที่จะทำให้เราเปลี่ยนความรู้ให้กลายเป็นรายได้แบบซ้ำได้แล้วครับ โลกออนไลน์เปิดโอกาสให้เรามากกว่าที่คิด และตอนนี้แหละครับ คือเวลาที่ดีที่สุดที่จะลองทำดู
กุญแจสู่ความสำเร็จ (Key to Success)
ทุกคนที่เป็นเชฟแล้วอยากเริ่มต้นขายคอร์สออนไลน์ จะมีกุญแจสำคัญที่ทำให้คนธรรมดาเปลี่ยนเป็นครูสอนทำอาหารที่น่าเรียนด้วยได้ แค่ไม่กี่ข้อ และทุกข้อเหล่านี้ล้วนทำได้จริงครับ
- ใช้เมนูที่เชี่ยวชาญที่สุด เป็นจุดเริ่มต้นของคอร์ส ไม่ต้องคิดสูตรใหม่ให้ยุ่งยาก
- ไม่ต้องเก่งเทคโนโลยี ก็สามารถมีเว็บไซต์คอร์สออนไลน์ของตัวเองได้
- เว็บไซต์คือหน้าร้านออนไลน์ ที่ทำให้คนเห็นความเป็นมืออาชีพของเชฟ
- ระบบเรียนรู้แบบไม่ต้องไลฟ์สด ช่วยให้เชฟมีเวลาไปทำอย่างอื่นเพิ่มรายได้อีกทาง
- ถ่ายทอดเรื่องราวความเป็นตัวเอง เพื่อสร้างแบรนด์ให้คนรู้สึกอยากเรียนกับคุณ
- ตั้งชื่อคอร์สให้น่าสนใจ และใช้ภาพอาหารจริงจากครัวของตัวเองในการโปรโมต
- เริ่มจากเครื่องมือที่เหมาะกับมือใหม่ ไม่จำเป็นต้องมีทีมงานก็เริ่มได้
- เชฟทุกคนมีความรู้เฉพาะตัว ที่มีคนรอเรียนอยู่จริงๆ เพียงแค่ยังไม่รู้จัก
- รายได้จากคอร์สออนไลน์ ช่วยให้มีรายได้ซ้ำ โดยไม่ต้องทำงานเพิ่มทุกวัน
- ความรู้ในครัว ไม่ใช่แค่ของเรา แต่เป็นทรัพย์สินที่ขายได้ในระยะยาวครับ
คำแนะนำสุดท้ายจากผม ดี้ LandyCourse
ถ้าคุณเป็นเชฟคนหนึ่งที่เคยคิดว่า ความรู้ในครัวของคุณมันอาจไม่มีค่าไปมากกว่าจานอาหารตรงหน้า ผมอยากบอกว่า…คุณอาจจะยังไม่เห็นศักยภาพที่แท้จริงของตัวเองครับ ในทุกๆ ขั้นตอนของการทำอาหาร ทุกเมนูที่คุณทดลองซ้ำแล้วซ้ำอีก ทุกคำถามที่ลูกค้าชอบถามซ้ำๆ ทั้งหมดนี้คือสิ่งที่คนอื่นอยากรู้ และพร้อมจะจ่ายเงินเพื่อเรียนรู้จากคุณจริงๆ นะครับ นี่แหละคือช่วงเวลาที่เหมาะที่สุดในการเปลี่ยนจากคนทำอาหาร เป็นคนที่ถ่ายทอดสิ่งนั้นได้อย่างมีคุณค่า และทำเงินจากมันได้ในระยะยาวผ่าน คอร์สออนไลน์ ที่คุณสร้างเองได้
ไม่จำเป็นเลยครับว่าคุณจะต้องเก่งเทคโนโลยี หรือมีทีมงานพร้อมเหมือนมืออาชีพ เพราะวันนี้ระบบต่างๆ ที่ช่วยให้คุณทำ เว็บไซต์คอร์สออนไลน์ มันถูกออกแบบมาให้ใช้งานง่ายมากแล้วจริงๆ ขอแค่คุณมีความตั้งใจ ถ่ายทอดสิ่งที่คุณทำได้ดีอยู่แล้ว แล้วกล้าที่จะเริ่ม ไม่ต้องไลฟ์สดทุกวัน ไม่ต้องพูดเก่งเหมือนพิธีกร คุณก็สามารถมีระบบการเรียนแบบดูย้อนหลังได้ มีระบบขายอัตโนมัติ มีการติดตามผ่านอีเมล ทุกอย่างรองรับหมดแล้วครับ สิ่งที่ขาดอยู่แค่ “คุณ” เท่านั้น ที่จะเริ่มต้นจริงๆ จังๆ กับการลงมือทำ
ผมอยากชวนให้คุณเริ่มจากสิ่งง่ายๆ ครับ เริ่มจากเมนูที่คุณทำจนคล่องมือ เมนูที่คนรอบตัวชอบถาม หรือสูตรที่คุณมั่นใจว่าใครทำตามก็อร่อยแน่นอน นั่นแหละคือจุดเริ่มต้นที่ดีที่สุด ไม่ต้องไปคิดสูตรใหม่ ไม่ต้องพยายามเป็นเชฟดัง แค่เป็นตัวเองในแบบที่คุณถนัด แล้วค่อยๆ วางโครงให้มันกลายเป็นคอร์ส เรียบเรียงจากประสบการณ์ที่มีจริง แล้วใช้ภาพจากครัวของคุณเองมาช่วยเสริมความน่าเชื่อถือ เท่านี้คุณก็สร้างตัวตนใหม่ในฐานะคนสอนทำอาหารได้แล้วครับ และไม่ใช่แค่การ “สอน” ธรรมดา แต่มันคือการขาย ความรู้จากครัว ให้กับคนที่กำลังตามหาแนวทางของตัวเอง
แต่สิ่งที่คุณต้องให้ความสำคัญมากกว่าการสร้างคอร์ส ก็คือการสร้างแบรนด์ของตัวเองครับ คนเรียนในยุคนี้ไม่ใช่แค่เลือกจากเนื้อหาคอร์ส แต่เขาเลือกจากคนสอนด้วยว่าใช่หรือไม่ใช่ เชฟที่กล้าเล่าเรื่องตัวเอง เชฟที่มีจุดยืนชัดเจน เชฟที่มีแนวทางเฉพาะ และสื่อสารผ่านเว็บไซต์หรือโซเชียลให้คนรู้สึกว่า “เขาคนนี้แหละที่ฉันอยากเรียนด้วย” แบบนี้แหละครับที่ทำให้คอร์สขายได้จริงในระยะยาว เพราะมันไม่ใช่แค่คอร์ส แต่คือความสัมพันธ์ระหว่างผู้สอนกับผู้เรียน ที่เชื่อมโยงกันผ่าน ธุรกิจจากความรู้ ที่มีตัวคุณเป็นหัวใจ
ท้ายที่สุดนี้ ผมอยากบอกว่าคุณไม่จำเป็นต้องเก่งพร้อมก่อนถึงจะเริ่ม และไม่ต้องรอให้มีเวลาว่างค่อยคิดทำ เพราะความรู้ของคุณมีค่าทุกวันครับ ถ้าคุณไม่หยิบมันออกมาเปลี่ยนเป็นรายได้ มันก็จะอยู่เฉยๆ เหมือนวัตถุดิบที่หมดอายุในตู้เย็น ความรู้เมื่อไม่ได้ใช้ มันก็ไม่เกิดพลังอะไรเลย แต่เมื่อคุณกล้าใช้มัน แบ่งปันมัน สร้างระบบให้มันขายได้ด้วยตัวเอง คุณจะรู้เลยครับว่า เชฟ อย่างคุณสามารถเปลี่ยนชีวิตของตัวเอง และคนที่เรียนกับคุณได้มากแค่ไหน อย่ามัวแต่รอ อย่าคิดว่าไม่เก่ง อย่ามองตัวเองเล็กเกินไป เพราะตอนนี้ทุกอย่างที่คุณมี มันเพียงพอแล้วครับสำหรับการเริ่มต้นที่ยิ่งใหญ่
อยากทักทายหรือสอบถาม ก็ทักไลน์มาคุยกับผมได้เลยนะครับ ^^
ดี้ LandyCourse
รับเว็บไซต์โปร!
เว็บไซต์โปรคุณภาพระดับมืออาชีพ ที่ผมจะติดตั้งทำระบบให้เสร็จครบๆจบๆ คุณแค่เอาไปใส่เนื้อหาเองง่ายๆ ราคาช่วงนี้แค่ 2,490 บาท ….สนใจ กดปุ่มสีแดงดูรายละเอียด หรือ ทักไลน์ปุ่มเขียวมาได้เลย