· · · · ·

ที่ปรึกษาธุรกิจจะยิ่งเห็นผล ถ้ามีระบบเก็บสูตรเฉพาะไว้ใช้ซ้ำ

ถ้าคุณเป็นที่ปรึกษาธุรกิจแล้วรู้สึกว่าทำไมแต่ละงานถึงเหนื่อยเหมือนเริ่มต้นใหม่ทุกครั้ง ทั้งที่ปัญหาของลูกค้าก็คล้าย ๆ กัน ผมอยากให้คุณลองหยุดคิดนิดนึงครับ แล้วมองย้อนกลับไปว่า…ในทุก ๆ โปรเจกต์ที่ผ่านมา เราเคยทำอะไรไว้บ้างที่ใช้ได้ดี? แล้วทำไมเราถึงไม่ได้หยิบมันมาใช้อีก? นี่แหละครับ คือจุดเริ่มต้นของบทความนี้ ที่ผมอยากจะชวนคุณมาทำความเข้าใจว่า “การเก็บสูตรเฉพาะ” ของคุณให้เป็นระบบ มันไม่ใช่แค่ช่วยลดความเหนื่อยล้า แต่มันคือการสร้างรากฐานของธุรกิจคุณในระยะยาวเลยนะครับ เพราะสิ่งที่เราเคยวางไว้ดีแล้ว มันไม่ควรอยู่แค่ในหัวเรานาน ๆ ใช่มั้ยครับ

ทำไมที่ปรึกษาธุรกิจต้องมี “สูตรเฉพาะ” ที่ใช้ซ้ำได้

หลายคนที่ทำอาชีพที่ปรึกษาธุรกิจ มักจะอยู่ในภาวะที่ต้อง “คิดใหม่ทุกงาน” ทั้งที่ปัญหาของลูกค้ากลับมีจุดร่วมคล้ายกันแทบทุกเคสครับ ผมเองเคยสงสัยว่าเราจะต้องวางกลยุทธ์ใหม่ทุกครั้งไปจริงเหรอ? จนได้ลองเก็บรายละเอียดสิ่งที่เราทำซ้ำ ๆ และพบว่ามีวิธีคิดบางอย่างที่ใช้ได้ดีเสมอ นั่นแหละครับ มันคือ “สูตรเฉพาะ” ที่คุณอาจไม่รู้ตัวว่ามีอยู่แล้วก็ได้ครับ

สูตรเฉพาะ ไม่ได้หมายถึงโมเดลธุรกิจสำเร็จรูปหรือทฤษฎีตายตัวนะครับ แต่มันคือแนวทางที่คุณค่อย ๆ ปรับใช้จนกลายเป็นลายเซ็นของตัวเอง ยิ่งคุณรู้ตัวเร็วเท่าไร ว่ากำลังใช้วิธีไหนซ้ำอยู่ มันก็ยิ่งง่ายต่อการวางระบบเก็บองค์ความรู้นั้นไว้ให้ใช้ซ้ำได้ในอนาคตครับ เรื่องนี้อาจดูเล็ก แต่บอกเลยว่าเป็นจุดเริ่มต้นของการสร้างมาตรฐานในการให้บริการแบบมืออาชีพเลยนะครับ

ปัญหาที่มักเจอเมื่อไม่มีระบบเก็บแนวทาง

ผมเจอเพื่อนที่เป็นที่ปรึกษาหลายคนเล่าเหมือนกันครับว่า พอเจอลูกค้าใหม่ทีไร ก็เหมือนโดนรีเซ็ตทุกครั้ง ทั้งที่โจทย์มันคล้าย ๆ กับเคสเก่าเลย แต่กลับต้องวางแผนใหม่ วาดใหม่ คิดใหม่กันตลอด มันไม่ใช่เรื่องของความขี้เกียจนะครับ แต่เป็นเพราะเราไม่เคยจัดเก็บสิ่งที่เคยทำไว้ให้เป็นระบบต่างหาก พอไม่มีสิ่งที่เรียกกลับมาใช้ได้ เราก็ต้องใช้แรงสมองมากขึ้นทุกครั้ง และมันส่งผลต่อเวลาอย่างมหาศาลเลยครับ

อีกอย่างหนึ่งคือเรื่องของความน่าเชื่อถือครับ ถ้าคุณเคยเจอลูกค้าที่ต้องรีบเร่ง หรือมีทีมงานหลายฝ่ายเข้ามาเกี่ยวข้อง การที่คุณไม่สามารถอธิบายแนวทางของตัวเองได้อย่างชัดเจน หรือไม่มีหลักฐานของสิ่งที่เคยทำให้คนอื่นดู อาจทำให้ดูไม่มั่นใจในสิ่งที่เสนอ และทำให้เสียความเชื่อมั่นไปอย่างน่าเสียดาย ทั้งที่จริง ๆ คุณอาจเป็นคนที่เก่งมากคนหนึ่งเลยก็ได้ครับ เพียงแต่ระบบมันยังไม่พร้อมเท่านั้นเอง

จากบริการเฉพาะตัว สู่ระบบที่ใช้ซ้ำได้จริง

ถ้าคุณเคยผ่านประสบการณ์ในการให้คำปรึกษาแบบตัวต่อตัวกับลูกค้ามาบ้าง ผมเชื่อว่าคุณน่าจะมีแนวคิดบางอย่างที่หยิบมาใช้ซ้ำแล้วได้ผลดีใช่ไหมครับ บางทีอาจจะเป็นคำถามที่คุณชอบใช้เริ่มต้นการวิเคราะห์ หรืออาจจะเป็นกระบวนการสรุปภาพรวมที่ลูกค้าชอบฟัง สิ่งเหล่านี้แหละครับที่กำลังบอกว่า คุณเริ่มมี “ระบบเฉพาะตัว” อยู่แล้วโดยธรรมชาติ ขั้นต่อไปคือการดึงมันออกมาให้ชัด แล้วจัดระเบียบให้มันกลายเป็นสิ่งที่ใช้ได้ซ้ำ ๆ ครับ

ระบบที่ใช้ซ้ำได้จริงไม่จำเป็นต้องเป็นซอฟต์แวร์ล้ำยุค หรือเครื่องมือทางเทคนิคอะไรเลยครับ บางครั้งแค่มีขั้นตอนที่ชัดเจน ชุดคำถามสำเร็จรูป หรือแนวทางที่จัดเก็บไว้ในเอกสารดิจิทัลก็พอแล้ว เมื่อคุณสามารถส่งต่อให้ลูกค้าหรือทีมงานได้ทันที โดยไม่ต้องอธิบายใหม่ทุกครั้ง นั่นแหละครับคือระบบที่ช่วยให้คุณทำงานได้เร็วขึ้น มั่นคงขึ้น และดูเป็นมืออาชีพขึ้นเยอะเลยครับ

และไม่ใช่แค่ความเร็วหรือความสะดวกนะครับ แต่มันยังช่วยให้คุณควบคุมคุณภาพของบริการได้ดีขึ้นด้วย เพราะเมื่อมีระบบที่ชัดเจนแล้ว คุณจะรู้ว่ากำลังพาคนแต่ละกลุ่มไปยังจุดหมายเดียวกันด้วยกระบวนการที่เชื่อถือได้ ซึ่งสุดท้ายจะช่วยสร้างความไว้วางใจให้กับลูกค้าทั้งเก่าและใหม่แบบยั่งยืนเลยครับ

จะเริ่มเก็บสูตรเฉพาะอย่างไรให้เป็นระบบ

แนวทางเฉพาะของคุณจะไม่มีวันกลายเป็นระบบที่ยั่งยืนได้เลย ถ้าคุณยังไม่ได้เริ่มต้นจากพื้นฐานเล็ก ๆ ที่ถูกต้องครับ เพราะการเปลี่ยนสิ่งที่เราทำบ่อยให้กลายเป็นโครงสร้างซ้ำได้นั้น ต้องอาศัยการจัดระเบียบ และการแยกองค์ประกอบต่าง ๆ ออกมาให้ชัดเจน ซึ่งไม่ใช่เรื่องยาก แต่ต้องใส่ใจในรายละเอียด วันนี้ผมเลยอยากแบ่งปันรายการเชิงโครงสร้างที่สามารถช่วยให้คุณเริ่มเก็บแนวทางเฉพาะของตัวเองได้อย่างเป็นระบบ และต่อยอดไปสู่ ระบบให้คำปรึกษา ที่มีประสิทธิภาพได้ในระยะยาวนะครับ

  • Identify Repeatable Patterns: วิเคราะห์สิ่งที่คุณทำซ้ำบ่อย ๆ เช่น กระบวนการวิเคราะห์ (Analysis Framework) หรือการตั้งคำถาม (Discovery Questions)
  • Document Client Segmentation: แยกประเภทของลูกค้าออกเป็นกลุ่ม เพื่อให้แนวทางตอบโจทย์แต่ละกลุ่มได้เฉพาะทางมากขึ้นครับ
  • Create a Core Framework: สร้างแม่แบบหลักที่อิงจากประสบการณ์จริง โดยใช้สิ่งที่เวิร์กซ้ำแล้วซ้ำอีกมาเป็นโครงสร้างหลัก
  • Build Process Maps: สร้างแผนภาพการทำงาน (Workflow Diagram) เพื่อให้เห็นภาพการไหลของขั้นตอนทั้งหมดอย่างชัดเจน
  • Develop a Template System: รวมชุดแบบฟอร์ม คำถาม หรือ Checklists ที่ใช้บ่อยให้เป็นระบบสำเร็จรูป
  • Collect Feedback Loops: ตั้งจุดเก็บฟีดแบ็กจากลูกค้าในแต่ละขั้นตอน เพื่อปรับปรุงสูตรเฉพาะอย่างต่อเนื่อง
  • Store in a Centralized Knowledge Base: ใช้เว็บไซต์ WordPress หรือแพลตฟอร์มที่รองรับการสร้างระบบคลังความรู้ เพื่อเก็บข้อมูลทั้งหมดให้อยู่ในที่เดียวครับ
  • Version Control Guidelines: จัดการเวอร์ชันของสูตรที่พัฒนาอย่างมีระบบ เพื่อให้ไม่หลุดจากแนวคิดหลัก
  • Design Visual Aids: ออกแบบ Diagram, Infographic หรือ Mindmap ประกอบแนวทางเพื่อให้ทีมเข้าใจง่าย
  • Integrate into Service Workflow: นำระบบที่สร้างไปผนวกรวมกับการให้บริการจริง เช่น ระบบจองเวลา, การประเมินผล, หรือ Landing Page สำหรับลูกค้าแต่ละกลุ่ม

การเก็บสูตรเฉพาะให้เป็นระบบไม่ใช่เรื่องยากครับ แต่มันต้องใช้ความตั้งใจและมุมมองที่ชัดเจนว่าทุกสิ่งที่คุณทำอยู่ตอนนี้มันมีคุณค่ามากกว่าที่คุณคิด อย่าปล่อยให้สิ่งที่คุณทำซ้ำทุกวันหายไปโดยไม่มีร่องรอยครับ ถ้าคุณเริ่มจัดระเบียบมันตั้งแต่วันนี้ ต่อไปคุณจะมีเครื่องมือระดับมืออาชีพที่กลั่นมาจากประสบการณ์ของตัวเอง และที่สำคัญมันจะช่วยให้คุณเปลี่ยนจากการให้บริการแบบคนเดียว มาเป็นเจ้าของ บริการที่ปรับแต่งเฉพาะ ที่มีระบบชัดเจน และขยายผลลัพธ์ได้แบบไม่จำกัดครับ

เปลี่ยนแนวทางของคุณให้กลายเป็นสินค้าที่ขายได้

ผมอยากชวนคุณมองสิ่งที่คุณใช้ทำงานเป็นประจำ ให้ไม่ใช่แค่ “แนวทาง” อีกต่อไปครับ แต่ให้มันกลายเป็น “สินค้าความรู้” ที่สามารถขายได้จริง ไม่ว่าจะในรูปแบบของคอร์สออนไลน์ เอกสารไกด์บุ๊ก ชุดเวิร์กชีต หรือแม้แต่ระบบภายในที่คุณสามารถนำไปประยุกต์ในงานให้คำปรึกษากับลูกค้าใหม่ ๆ ได้อย่างต่อเนื่องและมีประสิทธิภาพครับ

ลองนึกถึงกรณีที่คุณสร้างแนวทางการวิเคราะห์ธุรกิจสำหรับลูกค้ากลุ่มหนึ่ง แล้วพบว่าวิธีนี้เวิร์กสุด ๆ ถ้าคุณจัดเรียงมันให้กลายเป็นคอร์สสั้น ๆ หรือเวิร์กบุ๊กที่ใช้งานได้เอง ก็สามารถนำไปเผยแพร่หรือขายผ่านเว็บไซต์ได้เลยครับ ลูกค้ากลุ่มใหม่ที่ยังไม่พร้อมซื้อบริการให้คำปรึกษาแบบเต็มรูปแบบ ก็อาจเลือกซื้อคอร์สหรือไฟล์ความรู้นี้ไปใช้ก่อนได้ นั่นคือจุดเริ่มของการขยายบริการจากการขายแรงงาน มาเป็นการขายองค์ความรู้ครับ

การมีสินค้าความรู้ยังช่วยให้คุณมี “รายได้ทางเลือก” เพิ่มจากงานให้คำปรึกษาโดยตรง และยังเป็นเครื่องมือที่แสดงให้เห็นถึงความเชี่ยวชาญของคุณด้วยนะครับ ลูกค้าเห็นก็จะรู้สึกได้เลยว่า คุณคือคนที่มีแนวคิดเป็นระบบ มีความเข้าใจลึกในสิ่งที่ทำ และพร้อมจะส่งมอบสิ่งนั้นให้คนอื่นในแบบที่จับต้องได้ครับ

เว็บไซต์ที่ดีต้องช่วยให้ระบบของคุณทำงานได้จริง

ผมเชื่อว่าเว็บไซต์ที่ดีสำหรับที่ปรึกษาธุรกิจ ไม่ควรมีแค่หน้าแนะนำตัวหรือประวัติส่วนตัวเท่านั้นครับ มันควรทำหน้าที่มากกว่านั้น โดยเฉพาะในเรื่องของการเก็บและแสดง “ระบบเฉพาะ” ที่คุณสร้างขึ้นมา เพราะนี่คือสิ่งที่จะช่วยให้ลูกค้าเข้าใจแนวคิดของคุณ และตัดสินใจใช้บริการได้ง่ายขึ้นครับ

เว็บไซต์ของคุณควรเป็นพื้นที่ที่คุณสามารถจัดเก็บแนวทางที่ใช้บ่อย ๆ ได้ เช่น ระบบคำถามเบื้องต้นที่ลูกค้าต้องตอบก่อนเข้ารับคำปรึกษา หรือคลังบทความที่ช่วยให้ลูกค้าเข้าใจแนวคิดของคุณชัดขึ้น รวมถึงเป็นช่องทางในการขายคอร์สหรือไกด์บุ๊กต่าง ๆ ที่คุณพัฒนาขึ้นจาก “สูตรเฉพาะ” ของตัวเองครับ เว็บไซต์ที่ดีจะไม่ใช่แค่โชว์โปรไฟล์ แต่จะต้องมีระบบรองรับความรู้ที่คุณมี และแปลงมันออกมาให้ลูกค้าเข้าถึงได้ง่ายที่สุดครับ

ยิ่งไปกว่านั้น ถ้าเว็บไซต์ของคุณสามารถเชื่อมต่อกับระบบหลังบ้าน เช่น แบบฟอร์มจองเวลา ปฏิทินนัดหมาย หรือระบบส่งไฟล์แบบเป็นขั้นตอน ก็จะช่วยให้คุณทำงานได้อย่างราบรื่นขึ้นมากเลยครับ เพราะมันช่วยลดการจัดการที่ไม่จำเป็น และเปิดโอกาสให้คุณได้โฟกัสกับสิ่งสำคัญคือ “การให้คำปรึกษาอย่างมีคุณภาพ” มากยิ่งขึ้นครับ

แพลตฟอร์มแบบไหนที่เหมาะกับที่ปรึกษาธุรกิจ

สิ่งสำคัญที่ผมอยากให้คุณพิจารณาเวลาเลือกแพลตฟอร์มก็คือ มันต้องช่วยให้คุณ “จัดการระบบเฉพาะ” ของตัวเองได้ครับ ไม่ใช่แค่สวยหรือมีฟีเจอร์เยอะแต่ใช้จริงไม่ได้ แพลตฟอร์มที่ดีควรยืดหยุ่นพอให้คุณออกแบบกระบวนการทำงานให้เหมาะกับแนวทางของคุณเอง ไม่ใช่บังคับให้คุณต้องเปลี่ยนตัวเองให้เข้ากับเครื่องมือครับ

หนึ่งในตัวเลือกที่ผมแนะนำเสมอสำหรับที่ปรึกษาคือแพลตฟอร์มที่สามารถสร้างเว็บไซต์ได้อย่างอิสระ เช่น WordPress ที่เปิดโอกาสให้คุณออกแบบหน้า Landing Page ได้ด้วยตัวเอง เพิ่มระบบฟอร์มคำปรึกษา หรือแม้แต่ระบบจัดการคอร์สออนไลน์ในตัวได้เลยครับ สิ่งเหล่านี้ล้วนช่วยให้คุณเก็บและใช้ “สูตรเฉพาะ” ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และพร้อมต่อยอดเป็นบริการใหม่ ๆ ได้ในอนาคตครับ

สิ่งที่สำคัญอีกอย่างคือ ความง่ายในการปรับปรุงข้อมูลครับ เพราะสูตรเฉพาะของคุณอาจมีการพัฒนาอยู่เรื่อย ๆ แพลตฟอร์มที่คุณเลือกใช้ควรเปิดโอกาสให้คุณปรับเปลี่ยนเนื้อหาได้เอง ไม่ต้องรอคนอื่นเสมอไป และควรจัดการทุกอย่างได้สะดวก ไม่ยุ่งยากจนเกินไปครับ

สูตรเฉพาะไม่ควรอยู่แค่ในหัวคุณอีกต่อไป

ผมอยากจะปิดท้ายบทความนี้ด้วยคำถามหนึ่งครับ…แล้วตอนนี้สูตรเฉพาะของคุณอยู่ที่ไหน? ถ้ายังอยู่ในหัว ยังไม่มีการจดบันทึก ยังไม่ได้จัดระบบใด ๆ เลย ผมว่ามันถึงเวลาแล้วครับที่จะเริ่มต้น เพราะสูตรเหล่านี้คือสิ่งที่คุณลงทุนลงแรงมาจากประสบการณ์ที่ผ่านมาทั้งหมด ถ้าปล่อยให้มันอยู่แค่ในความจำ ผมว่าเสียดายมากเลยนะครับ

สูตรเฉพาะจะทรงพลังก็ต่อเมื่อมันถูกหยิบออกมาใช้งานจริง ไม่ว่าจะในงานให้คำปรึกษา การจัดทำคอร์ส หรือใช้เป็นเครื่องมือในการพัฒนาธุรกิจของตัวเองครับ เมื่อคุณเริ่มวางระบบได้แล้ว ผมรับรองเลยว่าชีวิตการทำงานของคุณจะง่ายขึ้นเยอะ และที่สำคัญที่สุด มันจะช่วยให้ธุรกิจของคุณเติบโตอย่างมั่นคงในแบบที่คุณเป็นครับ

อย่ารอให้พร้อมครับ เริ่มเก็บ เริ่มจัดระบบ ตั้งแต่วันนี้เลยดีกว่า ผมเชื่อว่าคุณจะต้องขอบคุณตัวเองในวันข้างหน้าแน่ ๆ ครับ

กุญแจสู่ความสำเร็จ (Key to Success)

ถ้าใครที่ทำอาชีพที่ปรึกษาธุรกิจ แล้วกำลังอยากสร้างความเปลี่ยนแปลงที่แท้จริงในวิธีทำงานของตัวเอง ลิสต์นี้คือแก่นแท้ที่คุณไม่ควรมองข้ามครับ เพราะทุกข้อคือจุดเปลี่ยนที่พาแนวทางเฉพาะของคุณไปสู่ระบบที่ใช้ซ้ำได้ และสร้างรายได้แบบยั่งยืนจริง ๆ นะครับ

  • รู้จักเก็บสูตรเฉพาะของตัวเองให้เป็นระบบ เพราะทุกครั้งที่คุณใช้มันซ้ำ คือการประหยัดพลังสมองและเวลา
  • อย่าปล่อยให้ต้องเริ่มคิดใหม่ทุกงาน จัดการแนวทางซ้ำ ๆ ให้กลายเป็นมาตรฐานงานที่ไว้วางใจได้
  • กล้าดึงสิ่งที่ใช้บ่อยมาเรียบเรียงให้คนอื่นใช้งานได้ ไม่ต้องกลัวคุณภาพจะลดลง เพราะการจัดระบบคือการเพิ่มคุณค่า
  • เริ่มจากสิ่งเล็ก ๆ เช่น ชุดคำถามหรือขั้นตอนวิเคราะห์ แล้วค่อยต่อยอดให้กลายเป็นระบบใหญ่
  • แปลงความรู้ให้กลายเป็นสินค้า ไม่ว่าจะเป็นคอร์สออนไลน์ ไกด์บุ๊ก หรือเวิร์กบุ๊กแบบใช้ได้จริง
  • สร้างเว็บไซต์ให้รองรับการใช้งาน ไม่ใช่แค่โชว์โปรไฟล์ ให้เว็บไซต์กลายเป็นพื้นที่ที่เก็บและใช้สูตรเฉพาะได้จริง
  • เลือกแพลตฟอร์มที่ยืดหยุ่น เช่น WordPress ที่รองรับทั้ง Landing Page และระบบจัดการความรู้
  • เก็บความรู้ไว้ในระบบ ไม่ใช่แค่ในหัว เพราะถ้าคุณหายไป ความรู้ไม่ควรหายตามไปด้วยครับ

ใครที่อยากยกระดับระบบให้คำปรึกษา ให้กลายเป็นเว็บไซต์ที่ปรับแต่งเฉพาะตัวเองได้จริง ลองเริ่มจากการรวบรวมแนวทางที่ใช้บ่อยที่สุดก่อนเลยนะครับ แล้วค่อยต่อยอดจากตรงนั้น ผมเชื่อว่าระบบแบบนี้แหละ จะเป็นรากฐานให้ธุรกิจที่ปรึกษาเติบโตได้อย่างมั่นคงครับ

คำแนะนำสุดท้ายจากผม ดี้ LandyCourse

ผมเชื่อว่าหลายคนที่ทำอาชีพเป็น ที่ปรึกษาธุรกิจ อาจจะเคยรู้สึกคล้ายกันอยู่อย่างหนึ่งคือ…ทำไมเราต้องเหนื่อยกับการคิดทุกอย่างใหม่ตลอด ทั้งที่ปัญหาหลายเคสมันก็คล้ายกันแทบทุกครั้ง มันไม่ใช่เรื่องของความเก่งหรือไม่เก่งนะครับ แต่มันอยู่ที่ว่า เราเคยหันกลับมาดูจริง ๆ ไหม ว่าสิ่งที่เราทำเป็นประจำมันสามารถเก็บไว้ใช้ซ้ำได้หรือเปล่า? และเมื่อผมเริ่มเข้าใจเรื่องนี้มากขึ้น ผมก็พบว่า จุดเปลี่ยนที่สำคัญของคนที่ปรึกษาแบบมืออาชีพ ไม่ใช่แค่มีประสบการณ์เยอะ แต่คือคนที่รู้จัก “เก็บแนวทางเฉพาะของตัวเอง” ไว้อย่างเป็นระบบ แล้วหยิบมันมาใช้ซ้ำได้อย่างมั่นใจครับ

สิ่งที่ผมพูดถึงไม่ใช่การทำเทมเพลตลอย ๆ หรือพยายามจับทุกคนเข้าโมเดลเดียวกันนะครับ แต่คือการดึงสิ่งที่เราทำแล้วเวิร์กจริง ๆ ออกมาเป็นชุดกระบวนการที่เราสามารถเรียกใช้เมื่อไหร่ก็ได้ และที่สำคัญคือมันสามารถอธิบายให้ทีมงานหรือแม้แต่ลูกค้าเข้าใจได้ชัดเจน ไม่ใช่แค่เราคนเดียวที่เข้าใจอยู่ในหัว แบบนั้นมันไม่ยั่งยืนเลยครับ ถ้าเราสามารถพัฒนาสิ่งเหล่านี้ให้กลายเป็น ระบบให้คำปรึกษา ที่ชัดเจนได้ มันจะช่วยลดความเหนื่อยลงได้เยอะมาก แถมยังช่วยให้เราดูเป็นมืออาชีพขึ้นในสายตาลูกค้าอีกด้วยครับ

ผมขอแนะนำเลยครับว่า อย่ารอให้มีระบบใหญ่โตหรือซับซ้อนอะไร เริ่มจากสิ่งง่าย ๆ ก่อนเลย เช่น จดคำถามที่คุณใช้บ่อย สรุปขั้นตอนที่คุณเดินตามอยู่เสมอ แล้วลองมองให้เป็นโครงสร้าง มันอาจยังไม่ได้สมบูรณ์ในตอนแรกก็ไม่เป็นไรครับ แต่แค่เริ่มเก็บ ก็เท่ากับคุณเริ่มต้นสร้าง “สินทรัพย์ทางปัญญา” ของตัวเองแล้ว เพราะสูตรเฉพาะเหล่านี้แหละครับที่จะกลายเป็นแกนกลางให้คุณต่อยอดไปสู่การทำ ทำคอร์สจากประสบการณ์ หรือแม้แต่ทำระบบฝึกอบรมในองค์กรแบบที่คุณควบคุมคุณภาพได้เอง ไม่ต้องพึ่งคนอื่นเลยครับ

ที่สำคัญคือ อย่ามองว่าเว็บไซต์ของคุณมีไว้แค่โชว์ครับ เว็บไซต์ควรเป็นพื้นที่ที่เก็บระบบของคุณไว้ใช้งานจริง ไม่ว่าจะเป็นหน้า Landing Page สำหรับเก็บลีด, ระบบแบบฟอร์มสำหรับเก็บข้อมูลลูกค้า, หรือแม้แต่พื้นที่ขายสินค้าองค์ความรู้ของคุณเอง ถ้าเลือกใช้แพลตฟอร์มที่ยืดหยุ่นอย่าง WordPress คุณจะสามารถออกแบบสิ่งเหล่านี้ได้ด้วยตัวเองโดยไม่ต้องเขียนโค้ดเลยครับ และที่สำคัญคือ มันสามารถเติบโตไปพร้อมกับแนวคิดของคุณได้ ไม่ว่าคุณจะเปลี่ยนแปลงหรือพัฒนาระบบของคุณในอนาคตอย่างไรครับ

สุดท้ายนี้ ผมอยากให้คุณเห็นค่าของแนวทางที่คุณสะสมมาทั้งชีวิตนะครับ อย่าปล่อยให้มันอยู่ในหัวแค่คนเดียว เพราะถ้ามันสามารถเก็บไว้ แบ่งปัน หรือกลายเป็นระบบที่คนอื่นเข้าถึงได้ มันจะไม่ใช่แค่สิ่งที่ช่วยให้คุณทำงานง่ายขึ้น แต่มันจะกลายเป็นสิ่งที่ต่อยอดธุรกิจคุณไปได้อีกหลายเท่าเลยครับ ความรู้ที่ถูกจัดระบบดีแล้ว มันไม่ต่างอะไรจากการมีพนักงานเก่ง ๆ คอยช่วยคุณทำงานอยู่เบื้องหลังทุกวัน และเมื่อคุณสร้างสิ่งนี้ได้สำเร็จ คุณจะไม่ใช่แค่ที่ปรึกษาทั่วไปอีกต่อไปครับ แต่คุณจะกลายเป็นเจ้าของ ธุรกิจความรู้เฉพาะทาง ที่พร้อมเติบโตอย่างยั่งยืนเลยครับ

อยากทักทายหรือสอบถาม ก็ทักไลน์มาคุยกับผมได้เลยนะครับ ^^
ดี้ LandyCourse

โปรเจ็คแนะนำ

รับเว็บไซต์โปร!

เว็บไซต์โปรคุณภาพระดับมืออาชีพ ที่ผมจะติดตั้งทำระบบให้เสร็จครบๆจบๆ คุณแค่เอาไปใส่เนื้อหาเองง่ายๆ ราคาช่วงนี้แค่ 2,490 บาท ….สนใจ กดปุ่มสีแดงดูรายละเอียด หรือ ทักไลน์ปุ่มเขียวมาได้เลย

  • เว็บไซต์ที่เป็นของคุณ 100%
  • เว็บไซต์แนว บล็อก & Landing Page
  • รวมทุกอย่างครบๆ จบๆ ไม่ต้องลงทุนใดๆเพิ่มแล้ว
  • ไม่ต้องยุ่งยากทำส่วนยากๆเอง
  • ผมทำให้พร้อมดูแลให้ตลอดอายุ
  • ได้เว็บเสร็จไว ราคาไม่แพง!

Similar Posts