6 ข้อดีของการมีเว็บไซต์สำหรับคนที่ขายความรู้เป็นอาชีพ

ถ้าคุณเป็นคนหนึ่งที่ขายความรู้ ไม่ว่าจะเป็นการสอนออนไลน์ ทำคอร์ส หรือเขียนบทความแบ่งปันความรู้ ผมอยากให้คุณฟังสิ่งนี้ให้ดีๆนะครับ เพราะผมจะเล่าให้ฟังว่า “เว็บไซต์” ไม่ใช่แค่พื้นที่ออนไลน์ธรรมดาๆ แต่เป็นพื้นที่ที่เปลี่ยนคุณจากแค่ผู้แบ่งปัน เป็นมืออาชีพที่สร้างแบรนด์และรายได้ได้จริงครับ หลายคนเริ่มต้นจากแพลตฟอร์มโซเชียล ใช้ไปสักพักก็เริ่มรู้สึกติดขัด ทั้งเรื่องกฎการใช้งานที่เปลี่ยนบ่อย การถูกจำกัดการมองเห็น หรือแม้แต่การถูกแบนแบบไม่รู้ตัว ปัญหาเหล่านี้ทำให้หลายคนมองหา “บ้านหลังใหม่” ที่พวกเขาจะควบคุมได้เต็มร้อย และนั่นแหละครับ…เว็บไซต์คือคำตอบที่คุณอาจมองข้ามมาตลอด

1. เว็บไซต์คือพื้นที่ที่คุณควบคุมได้ 100%

คุณเคยรู้สึกไหมครับ ว่าการอยู่บนโซเชียลมีเดีย บางทีก็เหมือนกำลังสร้างธุรกิจอยู่บนที่ดินคนอื่น วันดีคืนดีเขาจะเปลี่ยนนโยบาย ลดการมองเห็น หรือปิดบัญชีคุณแบบไม่มีสัญญาณเตือนล่วงหน้าก็ได้ นี่แหละครับคือสิ่งที่ทำให้เว็บไซต์แตกต่าง เพราะเว็บไซต์คือ “ทรัพย์สินดิจิทัล” ของคุณเองที่ไม่มีใครมายุ่งได้ คุณจะจัดวางหน้าเว็บยังไง วางปุ่มสมัครเรียนตรงไหน จะเขียนอะไรลงไปก็ได้ทั้งหมดครับ

ความพิเศษอีกอย่างของเว็บไซต์คือคุณสามารถปรับเปลี่ยนได้ตามจังหวะของธุรกิจ ไม่ต้องรอให้แพลตฟอร์มอนุมัติ หรือเปลี่ยนระบบให้ตามใจเขา เว็บไซต์จึงเป็นเหมือนบ้านที่คุณออกแบบเองได้ทุกมุม ไม่ใช่ห้องเช่าที่ใครจะเข้ามากำหนดชีวิตคุณเมื่อไหร่ก็ไม่รู้ครับ

2. เว็บไซต์ช่วยสร้างภาพลักษณ์มืออาชีพให้กับความรู้ของคุณ

ผมเชื่อว่าหลายคนที่ขายความรู้ ไม่ว่าจะเป็นโค้ช ติวเตอร์ หรือครูสอนพิเศษ ล้วนต้องการให้คนอื่นมองเห็นความเชี่ยวชาญของเราอย่างชัดเจนใช่ไหมครับ การมีเว็บไซต์จึงเป็นเหมือนเสื้อสูทดีๆ ที่ช่วยเสริมบุคลิกของเราให้ดูมืออาชีพทันทีที่มีคนค้นหาเราเจอ

เวลาที่ใครสักคนกำลังจะสมัครเรียนกับคุณ หรือซื้อคอร์สจากคุณ เขาจะพยายามหาข้อมูลเพิ่มเติมเพื่อดูว่า “คุณน่าเชื่อถือแค่ไหน” ถ้าเขาเจอเว็บไซต์ที่ดูดี มีข้อมูลครบถ้วน มีรีวิวจากลูกค้า หรือมีตัวอย่างความรู้ให้ดู เขาจะรู้สึกมั่นใจมากขึ้นทันทีนะครับ และความมั่นใจนี่แหละคือก้าวแรกของการเปลี่ยนคนแปลกหน้าให้กลายเป็นลูกค้าครับ

3. เว็บไซต์ช่วยรวบรวมทุกอย่างไว้ในที่เดียว

ผมจะเล่าให้ฟังครับว่าหนึ่งในปัญหาที่คนขายความรู้เจอบ่อยๆ คือข้อมูลกระจัดกระจายเต็มไปหมด บางคนมีบทความอยู่ใน Facebook คอร์สขายอยู่ใน Marketplace ช่องทางติดต่ออยู่ใน LINE แล้วรีวิวก็ไปอยู่ใน IG สุดท้ายคือคนดูงงครับว่าควรเริ่มต้นจากตรงไหน

ถ้าคุณมีเว็บไซต์ คุณสามารถรวบรวมทั้งหมดมาไว้ที่เดียวได้เลยครับ ไม่ว่าจะเป็นคอร์สออนไลน์ บทความให้โหลดฟรี โปรไฟล์ส่วนตัว รีวิวจากลูกค้า ไปจนถึงช่องทางการติดต่อ ทุกอย่างจัดเรียงได้อย่างมีระบบ ทำให้คนเข้าใจสิ่งที่คุณเสนอได้ง่ายขึ้น และยังรู้สึกว่าคุณใส่ใจการนำเสนอมากขึ้นด้วยนะครับ

มันเหมือนกับการเปิดร้านที่มีทั้งเคาน์เตอร์ชัดเจน ป้ายบอกทางครบถ้วน และพนักงานต้อนรับคอยดูแล ต่างจากการไปขายของกลางตลาดที่ใครก็โผล่มาขายพร้อมกันจนลูกค้าสับสนครับ เว็บไซต์ช่วยให้คุณยืนโดดเด่นขึ้นมาจากความวุ่นวายนั้นได้อย่างสวยงามเลยครับ

4. เว็บไซต์ช่วยให้คุณเก็บข้อมูลลูกค้าเพื่อทำการตลาดต่อได้

หนึ่งในพลังที่หลายคนยังมองข้ามเกี่ยวกับการมีเว็บไซต์ก็คือ การที่เราสามารถ “เก็บข้อมูลลูกค้า” ได้อย่างเป็นระบบและต่อเนื่อง ซึ่งข้อมูลเหล่านี้คือพื้นฐานสำคัญสำหรับการทำ คอร์สออนไลน์, ขายบริการ หรือแม้แต่การสร้าง เว็บไซต์เรียนออนไลน์ ที่สามารถขยายฐานผู้เรียนได้เรื่อยๆ แบบไม่ต้องวิ่งหาลูกค้าใหม่ตลอดเวลา ถ้าคุณเข้าใจและใช้ประโยชน์จากสิ่งนี้ได้ถูกต้อง เว็บไซต์จะไม่ใช่แค่ที่แสดงตัวตน แต่จะกลายเป็นเครื่องมือทำ คอนเทนต์มาร์เก็ตติ้ง และสร้างความสัมพันธ์ในระยะยาวกับลูกค้าแบบที่โซเชียลมีเดียทำไม่ได้เลยครับ

• Lead Capture Form – แบบฟอร์มสำหรับให้ลูกค้ากรอกข้อมูล เช่น อีเมลหรือเบอร์โทร เพื่อใช้ต่อยอดการสื่อสาร
• Lead Magnet – ข้อเสนอพิเศษ เช่น Ebook, Cheat Sheet หรือ Mini Course เพื่อดึงดูดให้คนยินดีให้ข้อมูล
• Email Marketing Integration – เชื่อมต่อกับระบบส่งอีเมล เช่น Automation หรือ Sequencing เพื่อทำงานต่อเนื่อง
• Opt-in Strategy – วางแผนการเชิญชวนให้ลูกค้า “สมัครใจ” รับข่าวสารอย่างถูกหลักและมีมารยาททางการตลาด
• Conversion Tracking – ติดตามผลว่าลูกค้าคลิกปุ่มหรือสมัครเรียนมาจากหน้าไหน เพื่อปรับกลยุทธ์ต่อได้แม่นยำ
• CRM Integration – เชื่อมข้อมูลกับระบบจัดการลูกค้าสัมพันธ์ เพื่อจัดกลุ่มลูกค้าอย่างมีประสิทธิภาพ
• Custom Landing Page – สร้างหน้าเฉพาะกิจที่ใช้ในการเก็บข้อมูลลูกค้าในแต่ละแคมเปญแบบเฉพาะทาง
• Segmentation – แบ่งกลุ่มผู้สนใจตามพฤติกรรมหรือหัวข้อที่สนใจ เพื่อสื่อสารได้ตรงจุดยิ่งขึ้นครับ
• Data Privacy Compliance – ตั้งค่าให้สอดคล้องกับข้อกฎหมาย เช่น Cookie Consent และนโยบายความเป็นส่วนตัว
• Retargeting Pixel – ฝังโค้ดเพื่อทำโฆษณาติดตาม (Remarketing) ไปยังกลุ่มเป้าหมายที่เคยเข้าชมเว็บแล้ว

จะเห็นได้เลยครับว่าการเก็บข้อมูลไม่ใช่แค่การมีช่องกรอกอีเมล แต่คือ “ระบบทั้งหมด” ที่ทำให้เว็บไซต์ของคุณกลายเป็นเครื่องมือทำการตลาดแบบมืออาชีพได้จริง ถ้าคุณวางโครงสร้างถูกตั้งแต่ต้น ต่อให้ยังไม่มีงบโฆษณามาก หรือยังไม่มีฐานผู้ติดตามในโซเชียล เว็บไซต์ก็จะค่อยๆ สร้างเครือข่ายของคุณขึ้นมาเองแบบเป็นธรรมชาติครับ และท้ายที่สุด คุณจะไม่ต้องวิ่งหาคนใหม่ตลอดเวลา แต่มีระบบที่ทำให้ลูกค้าใหม่เข้ามาเรื่อยๆ จากข้อมูลที่คุณเก็บไว้อย่างมีประสิทธิภาพครับ

5. เว็บไซต์ทำให้การขายสินค้าหรือบริการของคุณง่ายขึ้น

พอพูดถึงเรื่องขายความรู้ หลายคนอาจจะยังนึกภาพไม่ออกว่าเว็บไซต์จะช่วยขายยังไงใช่ไหมครับ ผมจะเล่าให้ฟังแบบนี้ครับ ถ้าคุณมีคอร์สออนไลน์ สื่อการสอน หรือบริการให้คำปรึกษา เว็บไซต์ก็คือหน้าร้านที่เปิดให้คนเข้ามาซื้อได้ทุกวัน ไม่ต้องรอ Live ไม่ต้องคุยหลายรอบ ไม่ต้องส่งลิงก์ไปกลับหลายแพลตฟอร์ม มันคือพื้นที่ที่คุณจัดวางทุกอย่างไว้ชัดเจน แล้วให้ลูกค้าตัดสินใจได้ทันที

ยิ่งถ้าเว็บไซต์ของคุณเชื่อมระบบชำระเงิน หรือมีหน้าสมัครเรียนที่เข้าใจง่าย จะยิ่งลดแรงเสียดทานในการตัดสินใจซื้อเลยครับ บางคนเจอคอร์สที่น่าสนใจ แต่หาไม่เจอว่าซื้อยังไง กดสมัครตรงไหน สุดท้ายก็ปิดหนีไปเลย ซึ่งมันน่าเสียดายมากนะครับ แต่ถ้าคุณมีเว็บไซต์ดีๆ ทุกอย่างจะราบรื่นขึ้นทันตาเห็น

6. เว็บไซต์ช่วยให้คุณเติบโตได้อย่างยั่งยืน

สิ่งหนึ่งที่ผมสังเกตจากคนขายความรู้ที่ประสบความสำเร็จในระยะยาวก็คือ เขาจะไม่ฝากทุกอย่างไว้กับแพลตฟอร์มที่เปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา เขาจะสร้างพื้นที่ของตัวเอง และเว็บไซต์นี่แหละครับคือฐานที่มั่นที่ช่วยให้เขาเติบโตได้ต่อเนื่อง ไม่ว่าการตลาดจะเปลี่ยนแค่ไหน

เว็บไซต์สามารถวางคอนเทนต์แบบ Evergreen Content ได้ เช่น บทความความรู้ คำถามที่พบบ่อย หรือคอร์สเรียนที่เปิดตลอดเวลา ซึ่งทำให้คนเข้ามาเรียนหรืออ่านได้แม้เวลาจะผ่านไปหลายเดือน หรือหลายปี นี่แหละครับคือพลังของการทำ SEO ให้เนื้อหาของคุณถูกค้นเจอได้เรื่อยๆ โดยที่คุณไม่ต้องโพสต์ใหม่ตลอดเวลา

นอกจากนั้นเว็บไซต์ยังช่วยให้คุณ “สร้างแบรนด์” ได้จริงครับ ไม่ใช่แค่ปรากฏตัวชั่วคราวแล้วหายไป แต่เป็นการสร้างภาพลักษณ์ระยะยาว ที่คนจะจดจำและกลับมาเสมอเมื่อเขาต้องการความรู้ในสายที่คุณเชี่ยวชาญนะครับ

กลยุทธ์เริ่มต้นสร้างเว็บไซต์ให้คนขายความรู้แบบง่ายที่สุด

ถ้าคุณกำลังคิดว่าอยากมีเว็บไซต์ แต่ก็ยังรู้สึกว่ามันยาก ผมขอให้คุณเริ่มจากแนวคิดง่ายๆ ก่อนครับ ไม่ต้องเริ่มจากเว็บไซต์ใหญ่โตเต็มรูปแบบ ให้คุณลองคิดก่อนว่าคุณอยากให้คนที่เข้ามาเว็บของคุณ “ทำอะไร” เช่น ดูโปรไฟล์คุณ สมัครเรียนคอร์ส ดาวน์โหลดของฟรี หรือติดต่อขอคำปรึกษา เริ่มจากเป้าหมายง่ายๆ ก่อน แล้วค่อยสร้างเนื้อหารองรับเป้าหมายนั้นครับ

ในยุคนี้มีหลายวิธีที่คุณสามารถเริ่มต้นเว็บไซต์ได้แบบไม่ยุ่งยาก บางระบบเขาตั้งค่าพร้อมใช้งานไว้ให้หมดแล้ว คุณแค่ใส่เนื้อหาของคุณเข้าไป ซึ่งเหมาะกับคนขายความรู้ที่ไม่ถนัดเทคโนโลยีเลยครับ และถ้าคุณได้เว็บไซต์ที่ดีตั้งแต่ต้น ก็จะช่วยให้การขายและการเติบโตของคุณง่ายขึ้นอีกเยอะนะครับ

อย่าลืมนะครับ จุดเริ่มต้นที่ดีที่สุดไม่ใช่เว็บไซต์ที่สมบูรณ์แบบที่สุด แต่คือเว็บไซต์ที่ “ใช้งานได้จริง” และ “เริ่มต้นได้เลย” แม้มันจะยังไม่สมบูรณ์ ผมขอให้คุณลองเริ่มจากเวอร์ชันเล็กๆ แล้วค่อยๆ ขยายก็ได้ครับ

จากเว็บไซต์สู่รายได้: วิธีวางแผนคอนเทนต์ให้ต่อยอดความรู้ของคุณ

พอคุณมีเว็บไซต์แล้ว สิ่งต่อไปที่สำคัญไม่แพ้กันคือการวางแผน “คอนเทนต์” ครับ เพราะคอนเทนต์คือสิ่งที่ทำให้คนรู้จักคุณ เข้าใจสิ่งที่คุณสอน และอยากเรียนรู้กับคุณมากขึ้น หลายคนเข้าใจว่าคอนเทนต์คือแค่บทความหรือโพสต์ในโซเชียล แต่จริงๆ แล้วมันคือ “ระบบ” ที่คุณใช้สื่อสารความรู้และดึงดูดลูกค้าแบบต่อเนื่องครับ

ลองวางโครงเรื่องดูครับว่า ถ้าคุณจะทำบทความสัก 3 ชิ้น ควรมีบทความที่ให้ความรู้, บทความที่เล่าประสบการณ์จริง, และบทความที่เชิญชวนคนมาลองเรียนหรือทดลองใช้สิ่งที่คุณเสนอ จากนั้นก็ใช้บทความเหล่านี้เป็นสะพานเชื่อมไปสู่คอร์สหรือบริการของคุณ ทีละขั้น ทีละตอน แบบไม่ยัดเยียดนะครับ

ถ้าคุณทำคอนเทนต์ให้มี “แผน” และเชื่อมโยงอย่างมีกลยุทธ์ รายได้จะตามมาแบบไม่ต้องเร่งมากเลยครับ เว็บไซต์จะทำหน้าที่แทนคุณทุกวัน แม้คุณจะไม่ออนไลน์ก็ยังมีคนเข้ามาเรียนรู้และกลายเป็นลูกค้าในที่สุดครับ

ลองนำแนวทางเหล่านี้ไปใช้ดูนะครับ แล้วคุณจะเห็นเลยว่าเว็บไซต์ไม่ได้แค่เพิ่มความน่าเชื่อถือ แต่ยังเป็นเครื่องมือทำเงินที่ทรงพลังที่สุดสำหรับคนขายความรู้แบบคุณจริงๆ ครับ

กุญแจสู่ความสำเร็จ (Key to Success)

ถ้าคุณกำลังสร้างเว็บไซต์เพื่อขายความรู้ ไม่ว่าจะเป็นคอร์สออนไลน์ การให้คำปรึกษา หรือการสร้างแบรนด์ด้วยคอนเทนต์ ผมอยากให้คุณลองเช็กตามลิสต์นี้ดูครับ เพราะแต่ละข้อคือ “หัวใจสำคัญ” ที่ผมสกัดจากประสบการณ์และมุมมองของคนที่เดินเส้นทางเดียวกัน เพื่อให้คุณเริ่มต้นได้มั่นคง และไปต่อได้ไกลกว่าเดิมครับ

• ควบคุมได้ 100% – เว็บไซต์คือทรัพย์สินดิจิทัลที่คุณจัดการได้เองทั้งหมด
• สร้างภาพลักษณ์มืออาชีพ – ช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือของคอร์สออนไลน์และบริการที่คุณขาย
• รวมทุกอย่างไว้ในที่เดียว – ทั้งคอร์ส บทความ รีวิว โปรไฟล์ และช่องทางติดต่อ
• เก็บข้อมูลลูกค้าได้ – ใช้ Lead Magnet เพื่อเก็บอีเมลและทำการตลาดต่อเนื่องได้
• ขายได้สะดวกกว่าเดิม – มีระบบรับชำระเงินและหน้าสมัครเรียนที่เข้าใจง่าย
• เติบโตระยะยาวด้วย SEO – วางคอนเทนต์แบบ Evergreen และติดอันดับ Google ได้เรื่อยๆ
• เริ่มง่ายได้แม้ไม่เก่งเทคโนโลยี – ใช้เว็บไซต์แบบปรับแต่งพร้อมใช้งาน เพื่อลดความซับซ้อน
• วางแผนคอนเทนต์ให้ต่อเนื่อง – เปลี่ยนความรู้เป็นรายได้ ด้วยคอนเทนต์ที่มีเป้าหมายชัดเจน
• ทำเว็บไซต์เพื่อขายความรู้ – ไม่ใช่แค่มีเว็บ แต่ต้องทำให้เว็บ “ทำงานแทนคุณ” ได้

ทั้งหมดนี้คือแก่นสำคัญจากการสร้างเว็บไซต์สำหรับขายความรู้ ที่ไม่ใช่แค่การมีหน้าเว็บ แต่คือการสร้าง “ระบบ” ที่ช่วยให้คุณนำคอร์สออนไลน์หรือความเชี่ยวชาญที่คุณมี มาต่อยอดเป็นรายได้แบบยั่งยืนครับ ถ้าคุณกำลังจะเริ่ม ลองเช็กตามนี้ทีละข้อ แล้วค่อยๆ เดินไปในจังหวะที่คุณถนัดนะครับ ผมเชื่อว่าคุณทำได้ครับ

คำแนะนำสุดท้ายจากผม ดี้ LandyCourse

เวลาที่เราคิดจะเริ่มต้นอะไรสักอย่าง โดยเฉพาะการเริ่มขายความรู้ในโลกออนไลน์ มันมักจะมีคำถามมากมายวนเวียนอยู่ในหัวเสมอครับ ว่าจะเริ่มยังไงดี จะใช้ช่องทางไหนดี หรือจะทำให้ดูน่าเชื่อถือได้ยังไง ซึ่งถ้าผมจะให้คำแนะนำสั้นๆ เลยนะครับ ผมขอพูดอย่างชัดๆ ว่า “การมีเว็บไซต์เป็นของตัวเองคือจุดเปลี่ยนที่สำคัญที่สุด” เพราะเว็บไซต์ไม่ได้เป็นแค่หน้าร้าน แต่มันคือ “ศูนย์รวมตัวตน” ที่คุณควบคุมได้เองเต็มร้อย และนั่นแหละครับคือสิ่งที่ผมอยากเน้นจากใจจริง คุณสามารถวางเนื้อหาทั้งหมดได้ตามแบบที่คุณเชื่อ วางระบบการขายได้ในแบบที่คุณถนัด โดยไม่ต้องรอใครมาอนุญาต และไม่ต้องกลัวว่าวันหนึ่งระบบไหนจะล่มหรือถูกปิดบัญชีไปแบบที่เราเคยเห็นกันบ่อยๆ บนโซเชียลครับ

แต่สิ่งที่ผมอยากบอกมากไปกว่านั้นคือ เว็บไซต์ไม่ได้ช่วยแค่เรื่องการ “แสดงตัวตน” นะครับ มันยังเป็นเครื่องมือในการ “สร้างรายได้” ที่ทรงพลังมากสำหรับคนที่ ขายความรู้ โดยเฉพาะ ถ้าคุณทำคอร์สออนไลน์ หรือให้คำปรึกษา การที่คุณมีเว็บไซต์ที่เป็นของคุณเอง จะช่วยให้คุณสร้างความน่าเชื่อถือได้มากขึ้นมหาศาลเลยครับ คนที่สนใจสามารถเข้าไปดูรายละเอียดได้ครบในที่เดียว ไม่ต้องตามหาคุณหลายช่องทาง ไม่ต้องคุยหลายรอบ และที่สำคัญเลยคือ พวกเขารู้สึกว่า “คุณจริงจัง” กับสิ่งที่คุณทำจริงๆ ไม่ใช่แค่โพสต์ขายผ่านแพลตฟอร์มต่างๆ แบบชั่วคราว แล้วพอเลิกก็หายไปเลย เพราะฉะนั้นถ้าคุณกำลังจะเริ่ม ผมอยากให้คุณให้ความสำคัญกับ การสร้างเว็บไซต์ ตั้งแต่วันนี้เลยครับ

อีกเรื่องที่ผมเห็นว่าคนขายความรู้มักมองข้ามไป คือเรื่องของการวางแผน คอนเทนต์มาร์เก็ตติ้ง ครับ หลายคนมีของดีอยู่แล้ว แต่ไม่ได้วางแผนในการเล่าให้คนอื่นฟัง หรือสร้างบทความให้คนค้นเจอได้ในระยะยาว สิ่งที่เกิดขึ้นคือ คนก็ไม่ได้เจอคุณ และท้ายที่สุดคือขายไม่ได้ ทั้งที่สิ่งที่คุณทำมันมีประโยชน์มากนะครับ การที่คุณเขียนบทความดีๆ สักบท หรือแชร์เคล็ดลับเล็กๆ น้อยๆ ที่ต่อยอดมาจากสิ่งที่คุณสอน จะช่วยดึงดูดคนเข้ามาเรื่อยๆ และบทความเหล่านี้จะทำหน้าที่เป็นเหมือนตัวแทนของคุณไปตลอด แบบไม่ต้องเหนื่อยโพสต์ซ้ำทุกวันเลยครับ

นอกจากนี้ อยากให้คุณเริ่มคิดเรื่อง “ระบบ” บนเว็บไซต์ของคุณด้วยนะครับ ไม่ใช่แค่การมีหน้าเว็บ แต่คุณควรเริ่มมีแบบฟอร์มเก็บอีเมล มีการแจกของฟรี (หรือที่เราเรียกว่า Lead Magnet) เพื่อเก็บข้อมูลคนที่สนใจ แล้วค่อยๆ ส่งข้อมูลหรือแนะนำคอร์สเพิ่มเติมไปในอนาคต การมีระบบแบบนี้คือจุดที่เปลี่ยนจากแค่คนสนใจมาเป็น “ลูกค้า” ได้จริงๆ และที่ผมอยากเน้นมากๆ คือ มันไม่จำเป็นต้องเริ่มแบบยิ่งใหญ่นะครับ คุณสามารถเริ่มจากโครงสร้างง่ายๆ และค่อยๆ เพิ่มทีละอย่างในแบบที่คุณไหว ขอแค่คุณ “เริ่ม” เท่านั้นเองครับ

ผมขอทิ้งท้ายด้วยมุมที่ลึกลงไปกว่านั้นอีกนิดนะครับ เว็บไซต์ของคุณไม่ใช่แค่หน้าร้าน ไม่ใช่แค่ระบบขายของ แต่มันคือ “พื้นที่ปลอดภัย” สำหรับคนที่อยากเรียนรู้จากคุณ ถ้าคุณสื่อสารได้ดี มีเนื้อหาที่จริงใจ และให้ข้อมูลอย่างตั้งใจ คนจะกลับมาเองโดยไม่ต้องเร่ง ไม่ต้องยัดเยียด และสุดท้ายเขาจะกลายเป็นคนที่รักในความรู้ของคุณจริงๆ และนั่นคือจุดที่ แบรนด์ ของคุณจะเริ่มเติบโตแบบยั่งยืนเลยครับ ผมอยากให้คุณได้สัมผัสความรู้สึกนั้นจริงๆ เพราะมันคือจุดเปลี่ยนสำคัญที่ผมเองก็เคยผ่านมากับตัว และผมก็หวังว่าคุณจะได้เจอมันเช่นกันครับ

อยากทักทายหรือสอบถาม ก็ทักไลน์มาคุยกับผมได้เลยนะครับ ^^

ดี้ LandyCourse