5 ความเข้าใจผิดเกี่ยวกับ “แผนธุรกิจ” ที่ทำให้หลายคนคิดว่าใช้ได้เฉพาะกับบริษัทใหญ่

ถ้าพูดถึงคำว่า “แผนธุรกิจ” หลายคนอาจนึกถึงภาพของเอกสารหนาๆ ที่มีแต่กราฟ สถิติ และตัวเลขเต็มไปหมด ใช่ไหมครับ? บางคนอาจรู้สึกว่ามันไม่เกี่ยวอะไรกับตัวเองเลย โดยเฉพาะคนที่เป็นโค้ช เป็นครูออนไลน์ หรือคนที่กำลังเริ่มต้นสร้างคอร์สของตัวเองเล็กๆ แต่จริงๆ แล้ว ผมอยากชวนให้ลองมองใหม่ครับ เพราะแผนธุรกิจไม่ใช่แค่เรื่องของบริษัทใหญ่เท่านั้น แต่มันคือสิ่งที่คนธรรมดาอย่างเราก็ใช้ได้ และใช้แล้วจะเห็นผลกับการเติบโตของตัวเองแบบชัดเจนเลยนะครับ

เข้าใจผิดข้อที่ 1: แผนธุรกิจจำเป็นเฉพาะบริษัทใหญ่โต

ความเชื่อนี้เป็นหนึ่งในกับดักที่ทำให้หลายคนมองข้ามโอกาสดีๆ ไปแบบน่าเสียดายเลยครับ หลายคนที่เป็นผู้สอนออนไลน์หรือโค้ชที่ทำงานคนเดียว อาจคิดว่าเราไม่ได้เป็นบริษัท ไม่มีทีมงาน ไม่มีสินค้าหลายอย่าง จะเขียนแผนธุรกิจไปทำไมให้ยุ่งยาก แต่จริงๆ แล้วแผนธุรกิจไม่จำเป็นต้องใหญ่หรือซับซ้อนเลยนะครับ มันสามารถเริ่มต้นจากจุดเล็กๆ ที่ชัดเจน เช่น เป้าหมายของคอร์ส เราจะสื่อสารกับใคร หรือเราจะวางราคาคอร์สยังไง นั่นแหละคือโครงร่างแผนธุรกิจแบบเรียบง่ายแล้วครับ

บางครั้งแผนธุรกิจไม่ต้องมีเอกสารหนาๆ ก็ได้ ขอแค่มีแผนในรูปแบบที่เราสามารถใช้งานได้จริง มองภาพรวมออก และรู้ว่าเรากำลังทำอะไรเพื่อไปถึงเป้าหมายตรงไหน แค่นี้ก็ถือว่าเราเริ่มวางรากฐานแบบมืออาชีพแล้วนะครับ เพราะฉะนั้นไม่ว่าเราจะตัวคนเดียวหรือไม่มีองค์กรใหญ่โต ก็สามารถมีแผนธุรกิจของตัวเองได้ครับ

เข้าใจผิดข้อที่ 2: ถ้าไม่หาผู้ลงทุน ก็ไม่ต้องมีแผนธุรกิจ

เหตุผลหลักที่หลายคนไม่อยากแตะเรื่องแผนธุรกิจ ก็เพราะเข้าใจว่ามันมีไว้โชว์นักลงทุนเท่านั้น ซึ่งจริงๆ แล้วไม่ถูกเลยครับ แผนธุรกิจที่ดีไม่จำเป็นต้องเอาไปเสนอใครเสมอไปนะครับ มันคือการวางแผนเพื่อให้เรารู้ว่าเรากำลังเดินไปในทางที่ถูกต้องหรือเปล่า กำลังจะไปที่ไหน และทำยังไงถึงจะไปถึงได้

การไม่มีแผนเลยจะทำให้เราเปลี่ยนไปเปลี่ยนมาโดยไม่มีหลักยึด พอทำไปสักพักก็งงว่าทำอะไรอยู่ หรือเสียเวลาไปกับเรื่องที่ไม่ได้พาเราไปถึงเป้าหมายที่แท้จริง ผมเชื่อว่าการมีแผนธุรกิจ แม้จะไม่มีนักลงทุนเลย ก็ยังสำคัญกับตัวเราเองมากๆ ครับ เพราะมันเป็นเหมือนกระจกที่สะท้อนว่าเราเข้าใจธุรกิจของตัวเองมากแค่ไหน

และไม่ต้องกลัวว่าจะต้องมีความรู้เยอะ หรือเขียนแผนเหมือนเรียน MBA ก็ไม่ใช่แบบนั้นเลยครับ แผนธุรกิจที่ดี เริ่มต้นได้จากสิ่งง่ายๆ ที่อยู่รอบตัวเรา แค่ตั้งคำถามกับตัวเองให้ถูกจุด แล้วเขียนมันออกมาเป็นแนวทาง ก็ถือว่าใช้ได้แล้วนะครับ

เข้าใจผิดข้อที่ 3: แผนธุรกิจยุ่งยาก ทำให้เสียเวลาเริ่มต้น

บางคนยังไม่ทันเริ่มทำอะไรเลย ก็รู้สึกกลัวคำว่า “แผนธุรกิจ” แล้วครับ เพราะคิดว่ามันจะต้องมีหลายหน้า ต้องเขียนละเอียด ต้องอธิบายการเงิน การตลาด ทุกอย่างครบหมดแบบตำรา ทั้งที่จริงๆ แล้ว แผนธุรกิจที่ใช้งานได้จริงไม่จำเป็นต้องซับซ้อนขนาดนั้นเลยนะครับ

ลองนึกดูครับ ถ้าเรามีแค่แผนที่เขียนคร่าวๆ ว่าเราจะขายอะไรให้ใคร ขายยังไง แล้วจะทำให้คนรู้จักได้ยังไง แม้จะเป็นแค่ 1 หน้า หรือ 2 หน้า ก็ถือว่าเพียงพอสำหรับการเริ่มต้นได้แล้วครับ มันช่วยให้เราไม่เดินแบบมั่วๆ และสามารถวัดผลสิ่งที่เราทำได้ด้วย

ผมเองอยากให้ลองเปลี่ยนมุมมองใหม่นะครับว่า แผนธุรกิจไม่ใช่สิ่งที่ขวางทางเริ่มต้น แต่เป็นเครื่องมือที่ช่วยให้เริ่มได้เร็วขึ้นด้วยซ้ำ เพราะมันทำให้เราชัดเจนว่าอะไรสำคัญ และอะไรควรทำก่อนหลัง

เข้าใจผิดข้อที่ 4: ทำคอร์สออนไลน์ แค่มีแพลตฟอร์มก็พอ

ผมเชื่อว่าหลายคนที่เริ่มต้นทำ คอร์สออนไลน์ มักจะมองว่าการมีแพลตฟอร์มดีๆ สักตัวก็น่าจะเพียงพอแล้ว ไม่ว่าจะเป็นระบบ LMS (Learning Management System), ระบบ Checkout หรือหน้าร้านที่พร้อมขายก็ตาม แต่ความจริงแล้วแพลตฟอร์มเป็นแค่ “เครื่องมือ” ครับ ไม่ใช่ “กลยุทธ์” และถ้าไม่มีแผนธุรกิจรองรับอย่างรอบด้าน ต่อให้ระบบดีแค่ไหน คอร์สก็อาจไปไม่ถึงเป้าหมายได้ง่ายๆ นะครับ

เพื่อให้คอร์สของคุณไม่เป็นแค่สินค้าอีกชิ้นหนึ่งในตลาด แต่กลายเป็นทรัพย์สินทางความรู้ที่สร้างรายได้ระยะยาว ผมอยากให้ลองดูรายการด้านล่างนี้ครับ ซึ่งเป็นสิ่งที่สำคัญมากที่คนทำคอร์สจำนวนมากมักมองข้ามไป โดยเฉพาะเมื่อไม่มี แผนธุรกิจ รองรับที่ชัดเจนพอ

• วาง Positioning ชัดเจน (Unique Value Proposition) — คอร์สของคุณให้ “คุณค่าเฉพาะ” แบบไหนที่ต่างจากคอร์สอื่นในตลาด
• กำหนด Persona ของกลุ่มเป้าหมาย — รู้จักตัวตนของผู้เรียน เช่น อายุ อาชีพ พฤติกรรมการเรียน เพื่อออกแบบคอร์สให้โดนใจ
• แผนสร้าง Awareness (Content Funnel) — วางกลยุทธ์คอนเทนต์เพื่อให้คนรู้จักคอร์สคุณ ไม่ใช่แค่รอให้เขาเจอเอง
• การตั้งราคาเชิงกลยุทธ์ (Strategic Pricing) — ไม่ตั้งตามใจ แต่ใช้ข้อมูล + Insight มาวิเคราะห์ให้ตอบโจทย์ตลาด
• แผนการขายแบบ Conversion-Oriented — ใช้ Landing Page ที่ออกแบบเพื่อพาให้คนลงทะเบียนจริง ไม่ใช่แค่สวยเฉยๆ
• ระบบติดตามผล (Analytics & Retargeting) — ติดตั้งระบบวัดผล เช่น Pixel, Conversion Tracking เพื่อดูผลและปรับแผน
• เส้นทางผู้เรียน (Learning Journey Mapping) — ออกแบบประสบการณ์ของผู้เรียนตั้งแต่ก่อนซื้อ ระหว่างเรียน และหลังเรียน
• การใช้เครื่องมือวัดผลเรียนรู้ (Assessment Tools) — ใช้ Quiz, Pre/Post-Test, Assignment เพื่อเพิ่ม Engagement
• ระบบ Referral หรือ Affiliate — เปิดโอกาสให้ผู้เรียนหรือ Influencer ช่วยแนะนำคอร์สของคุณ เพื่อขยายฐานผู้เรียน
• ระบบต่อยอดอัตโนมัติ (Course Ecosystem) — วางแผนต่อยอดคอร์ส เช่น คอร์สขั้นสูง คอร์สเสริม หรือ Bundle เพื่อเพิ่ม CLV
• ระบบ CRM กับผู้เรียน — ไม่จบแค่ขายคอร์ส แต่มีระบบสื่อสารเพื่อรักษาความสัมพันธ์กับผู้เรียน

ทั้งหมดนี้จะไม่มีวันเกิดขึ้นได้ ถ้าเราเอาความสำเร็จไปฝากไว้ที่แพลตฟอร์มอย่างเดียวโดยไม่มี แผนธุรกิจ หรือกลยุทธ์รองรับเลยครับ เพราะแพลตฟอร์มที่ดีจะกลายเป็นพลังได้ ก็ต่อเมื่อเราออกแบบระบบคิดและระบบขายไว้ดีแล้วเช่นกัน ลองย้อนกลับมาวางแผนตั้งแต่วันนี้นะครับ แล้วคุณจะไม่ต้องกลับมาแก้ปัญหาซ้ำซากในวันหน้าแน่นอน

เข้าใจผิดข้อที่ 5: มีแผนในหัวอยู่แล้ว ไม่จำเป็นต้องเขียนออกมา

ประโยคนี้ฟังดูคุ้นใช่ไหมครับ? “ผมรู้หมดแล้วว่าจะทำอะไร แค่ยังไม่ได้เขียน” ฟังดูมั่นใจดีครับ แต่เชื่อไหมว่าหลายคนที่พูดแบบนี้ สุดท้ายก็หลงทาง เพราะแผนในหัวมันเปลี่ยนได้ตลอดเวลา และเวลาที่มีไอเดียใหม่ๆ เข้ามา บางครั้งเราก็เผลอไหลตามไอเดียนั้นไปโดยไม่รู้ตัวนะครับ

การเขียนแผนออกมา ช่วยให้เราเห็นภาพรวมของธุรกิจได้ชัดเจนยิ่งขึ้นครับ เราจะรู้ว่าตอนนี้เรากำลังโฟกัสอะไร มีอะไรที่ต้องทำก่อน และอะไรที่รอได้ ผมอยากให้มองว่าการเขียนคือการ “เอาความคิดออกจากหัว” เพื่อให้มันชัดเจนและตรวจสอบได้ตลอดเวลานะครับ

ยิ่งเราอยู่คนเดียว ไม่มีทีมคอยช่วยคิดยิ่งต้องเขียนครับ เพราะไม่มีใครช่วยเตือนเราว่าเรากำลังหลุดโฟกัสอยู่หรือเปล่า แผนที่เขียนออกมาแล้วช่วยให้เรากลับมาดูทบทวนได้ทุกครั้งที่รู้สึกหลงทาง และยังใช้วางแผนระยะยาวได้ดีมากๆ ด้วยนะครับ

คิดใหม่ให้ไกลขึ้น: แผนธุรกิจคือเข็มทิศ ไม่ใช่แค่เอกสาร

ถ้าเรามองว่าแผนธุรกิจคือ “เอกสาร” ที่ต้องใช้แค่ตอนหานักลงทุน หรือทำเพื่อผ่านโปรเจกต์หนึ่งๆ มันก็คงดูน่าเบื่อใช่ไหมครับ แต่ถ้าเราคิดใหม่ว่า แผนธุรกิจคือ “เข็มทิศ” ที่จะพาเราฝ่าความไม่แน่นอนไปได้ ผมว่าเราจะรู้สึกต่างออกไปมากเลยนะครับ

เข็มทิศที่ดีไม่จำเป็นต้องมีรายละเอียดซับซ้อน แต่ต้องบอกทางที่ถูกต้องและใช้งานได้จริง ในโลกของการทำธุรกิจส่วนตัว หรือการสร้างคอร์สออนไลน์เอง มันมีความเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ทั้งตลาด ทั้งความสนใจของลูกค้า การมีแผนธุรกิจจะช่วยให้เรายึดแกนกลางของตัวเองไว้ได้ครับ

และสิ่งที่สำคัญคือ แผนธุรกิจไม่ใช่ของคนเก่งหรือคนมีทุนเท่านั้นนะครับ แต่เป็นของทุกคนที่อยากมีธุรกิจที่มั่นคง ไม่ว่าจะเล็กหรือใหญ่ เพราะมันคือกระบวนการคิดอย่างเป็นระบบ ที่ช่วยให้เราตัดสินใจได้ดีขึ้นในทุกๆ วันครับ

ใช้แผนธุรกิจให้เวิร์ก: เทคนิคปรับใช้สำหรับสายคอร์สออนไลน์

สำหรับใครที่ทำคอร์สออนไลน์อยู่ แล้วอยากลองปรับใช้แผนธุรกิจให้เห็นผล ผมมีไอเดียง่ายๆ มาเล่าให้ฟังครับ เช่น ลองเขียนภาพรวมของคอร์สเราก่อนว่า “เราต้องการให้คนเรียนได้อะไร” จากนั้นค่อยคิดต่อว่า “กลุ่มเป้าหมายเป็นใคร” และ “เขาจะหาคอร์สเราจากที่ไหน” แค่นี้ก็คือจุดเริ่มต้นของการวางแผนที่ดีแล้วนะครับ

อีกเรื่องที่คนมักมองข้ามคือเรื่องการตั้งราคา หลายคนตั้งตามใจ หรือตามคนอื่นโดยไม่ดูว่ากลุ่มเป้าหมายของเราพร้อมจ่ายแค่ไหน แผนธุรกิจจะช่วยให้เรากลับมาคิดเรื่องนี้แบบมีข้อมูลมากขึ้น ไม่ใช่เดาสุ่มครับ และยิ่งถ้าเรามีหลายคอร์ส การมีแผนจะช่วยให้รู้ว่าควรโปรโมทตัวไหนก่อน คอร์สไหนไว้หลัง หรือวางแผนทำ Bundle แบบไหนให้ขายได้มากขึ้น

ทั้งหมดนี้ไม่จำเป็นต้องใช้เอกสารเยอะๆ เลยครับ ใช้แค่กระดาษ 1 แผ่น หรือไฟล์ Notes ในมือถือก็ได้ ขอแค่เราตั้งใจคิดและวางให้ชัด มันจะทำให้ทุกอย่างในธุรกิจดูเป็นมืออาชีพขึ้นมากเลยครับ

จุดเริ่มต้นที่ทุกคนทำได้: เริ่มเขียนแผนธุรกิจฉบับย่อของตัวเองวันนี้

ผมอยากชวนให้ทุกคนลองหยิบกระดาษขึ้นมาวันนี้เลยครับ แล้วเขียนคำตอบสั้นๆ สำหรับ 3 คำถามนี้: “เราขายอะไร?”, “ให้ใคร?”, และ “เขาจะหาสินค้าหรือบริการเราจากที่ไหน?” แค่ 3 คำถามนี้ก็คือการเริ่มเขียนแผนธุรกิจฉบับย่อแล้วนะครับ

ถ้าเราทำแบบนี้ได้ ก็เท่ากับว่าเราเริ่มวางโครงร่างธุรกิจของตัวเองแล้วครับ ไม่ต้องรอให้พร้อม ไม่ต้องมีทุนเยอะ ไม่ต้องรอให้มีทีม เริ่มจากสิ่งที่มีในตอนนี้ก่อน แล้วค่อยๆ เติมรายละเอียดเข้าไปภายหลัง แผนธุรกิจไม่ใช่เรื่องไกลตัวเลยครับ แต่มันคือสิ่งที่ใครก็เริ่มทำได้ตั้งแต่วันนี้

ลองทำดูนะครับ แล้วคุณจะรู้เลยว่า การมีแผนที่แม้จะเรียบง่าย แต่มันช่วยให้คุณมั่นใจขึ้นเยอะ และช่วยให้ธุรกิจเดินไปได้แบบไม่หลงทางแน่นอนครับ

กุญแจสู่ความสำเร็จ (Key to Success)

ถ้าใครกำลังคิดว่า “แผนธุรกิจ” คือเรื่องไกลตัว ผมอยากให้ลองเปลี่ยนมุมมองใหม่นะครับ เพราะจากประสบการณ์ของคนที่ทำคอร์สออนไลน์ หรือเริ่มต้นธุรกิจเล็กๆ ด้วยตัวคนเดียว ผมพบว่าแผนธุรกิจที่ดีไม่จำเป็นต้องใหญ่โต แค่เข้าใจสิ่งเหล่านี้ให้ครบ คุณก็สามารถสร้างความมั่นคงให้ธุรกิจของตัวเองได้แล้วครับ

• ไม่ต้องรอเป็นบริษัทใหญ่ก็เริ่มเขียนแผนธุรกิจได้ เพราะทุกคนต้องการเป้าหมายที่ชัดเจน
• แผนธุรกิจไม่ได้มีไว้โชว์นักลงทุน แต่มันช่วยให้เราโฟกัสกับสิ่งที่สำคัญจริงๆ
• อย่ากลัวว่ามันยุ่งยาก เริ่มต้นจากแผนธุรกิจฉบับย่อแค่ 1-2 หน้าก็เวิร์กแล้ว
• แพลตฟอร์มคอร์สออนไลน์ช่วยแค่บางส่วน แต่แผนธุรกิจคือสิ่งที่จะพาเราเติบโตอย่างยั่งยืน
• การมีแผนในหัวไม่พอ ต้องเขียนออกมาให้เห็นเป็นภาพรวมที่จับต้องได้
• มองแผนธุรกิจเป็นเข็มทิศ ไม่ใช่เอกสารบังคับ เพราะมันพาเราไปในทางที่ถูกต้อง
• วางแผนคอร์สออนไลน์เหมือนวางแผนสินค้า ตั้งแต่เป้าหมายจนถึงราคาต้องคิดให้ครบ
• เริ่มจากคำถามง่ายๆ เราขายอะไร ให้ใคร และเขาจะเจอเราจากที่ไหน
• แม้ไม่มีทีมก็วางแผนได้ เพื่อให้ธุรกิจไม่หลุดเป้าและไม่หลงทิศ
• เริ่มวันนี้ ไม่ต้องรอความพร้อม เพราะแผนธุรกิจสร้างได้จากสิ่งที่คุณมีอยู่แล้ว

ทั้งหมดนี้คือจุดเริ่มต้นเล็กๆ ที่จะพาให้ธุรกิจคอร์สออนไลน์ หรือธุรกิจของคุณเดินไปอย่างมีทิศทางครับ แผนธุรกิจอาจดูเป็นเรื่องใหญ่ในตอนแรก แต่ถ้าคุณเริ่มจากวันนี้ ทีละนิด วันหนึ่งคุณจะมองย้อนกลับมาแล้วขอบคุณตัวเองที่ไม่ปล่อยให้เวลาผ่านไปเฉยๆ แน่นอนครับ

คำแนะนำสุดท้ายจากผม ดี้ LandyCourse

ผมอยากชวนทุกคนลองตั้งคำถามกับตัวเองสั้นๆ ง่ายๆ ก่อนนะครับว่า “เรารู้จักแผนธุรกิจดีแค่ไหน?” ถ้าใครเคยคิดว่าแผนธุรกิจมีไว้เฉพาะสำหรับองค์กรใหญ่ๆ หรือมีไว้แค่เอาไปโชว์นักลงทุน ผมว่าเราคิดไปคนละทางกับความจริงแล้วล่ะครับ เพราะสิ่งที่ผมได้เรียนรู้จากการทำเว็บไซต์ คอร์สออนไลน์ และการให้คำปรึกษาคนทำธุรกิจเดี่ยวมาหลายกลุ่มคือ คนที่สามารถเติบโตในแบบยั่งยืนมักจะมีสิ่งหนึ่งที่เหมือนกันอยู่เสมอครับ นั่นคือ “พวกเขารู้ว่าตัวเองกำลังจะไปไหน” ซึ่งกุญแจสำคัญที่พาไปถึงจุดนั้นได้ก็คือแผนธุรกิจนั่นเองครับ

แผนธุรกิจไม่ใช่เรื่องซับซ้อนเกินเข้าใจ และไม่จำเป็นต้องเริ่มต้นด้วยไฟล์ Excel 10 หน้า หรือ PowerPoint 30 สไลด์เลยนะครับ หลายคนที่ผมเคยเจอเริ่มจากแค่โพสต์โน้ตในมือถือ หรือร่างเป้าหมายคร่าวๆ บนกระดาษก็ยังเวิร์ก แล้วค่อยๆ เติมรายละเอียดให้ชัดขึ้นทีละนิด เพราะหัวใจของการมีแผนธุรกิจจริงๆ แล้วคือการทำให้เรารู้ว่ากำลังสร้างอะไร เพื่อใคร และจะไปถึงเป้าหมายได้อย่างไร แค่นั้นเองครับ การเริ่มต้นเล็กๆ ที่มีทิศทาง ยังไงก็ชนะการเดินแบบสะเปะสะปะแน่นอนนะครับ

สำหรับคนที่ทำคอร์สออนไลน์ หรือเป็นโค้ช เป็นติวเตอร์ เป็น Educators ที่มีแค่ตัวเองเป็นทีมงาน ผมเข้าใจความรู้สึกของคนที่ต้องทำหลายอย่างพร้อมกันดีครับ ไม่ว่าจะเป็นการทำเนื้อหา หาผู้เรียน หรือโปรโมตคอร์สบนโซเชียลมีเดีย ซึ่งหลายครั้งเราก็ทำไปเรื่อยๆ โดยไม่แน่ใจว่ากำลังเดินไปในทางที่ถูกไหม แต่ถ้าเรามี แผนธุรกิจ แม้จะเป็นแผนแบบเรียบง่าย ก็เหมือนมี “เข็มทิศ” ที่คอยเตือนเราว่าอะไรสำคัญ อะไรควรทำก่อน แล้วอะไรที่ควรรอได้ มันช่วยให้เราหลุดจากกับดักความวุ่นวาย และโฟกัสกับเป้าหมายที่แท้จริงครับ

แผนธุรกิจยังช่วยในเรื่องที่หลายคนมองข้าม เช่น การตั้งราคาคอร์ส การหากลุ่มเป้าหมาย หรือแม้แต่การตัดสินใจว่าจะใช้แพลตฟอร์มไหน ผมมองว่าหากเราเข้าใจภาพรวมของธุรกิจแล้ว คำถามเหล่านี้จะมีคำตอบชัดเจนมากขึ้น ไม่ใช่แค่ทำตามคนอื่นหรือลองผิดลองถูกไปเรื่อยๆ และอีกอย่างที่อยากบอกไว้เลยคือ การเขียนแผนธุรกิจออกมา มันไม่ใช่แค่เพื่อความเป็นระเบียบ แต่มันคือการเคลียร์สมอง ทำให้เราเห็นภาพของธุรกิจตัวเองแบบที่พูดออกมาได้ชัดถ้อยชัดคำครับ เพราะถ้าเราพูดไม่ได้ว่าเรากำลังทำอะไร ขายอะไร ให้ใคร อย่างชัดเจน นั่นแหละครับคือสัญญาณว่าควรกลับมาวางแผนใหม่เลย

ผมไม่ได้อยากให้ทุกคนเขียนแผนธุรกิจเพื่อจะเอาไปเสนอใครนะครับ แต่อยากให้เขียนเพื่อ “เสนอให้ตัวเอง” อ่านต่างหาก เพราะในวันที่เราเหนื่อย ท้อ หรือสับสน แผนธุรกิจที่เราทำไว้จะกลายเป็นที่พักใจ และช่วยให้เราย้ำเตือนตัวเองได้ว่า เราทำสิ่งนี้ไปเพื่ออะไร และกำลังไปทางไหนอยู่ และเชื่อเถอะครับว่า การที่เรามีภาพรวมของธุรกิจในมือ จะทำให้เราตัดสินใจได้ง่ายและมั่นใจมากขึ้นในทุกเรื่อง ตั้งแต่การเขียนเนื้อหา การตลาด การเลือกใช้ WordPress สร้างเว็บไซต์ ไปจนถึงการออกแบบ Landing Page สำหรับคอร์สออนไลน์ของตัวเองเลยครับ

สุดท้ายนี้ ผมอยากให้กำลังใจทุกคนที่กำลังเริ่มต้น หรือแม้แต่คนที่ทำมาสักพักแล้วแต่ยังรู้สึกไม่ชัดในเป้าหมาย อย่ารอให้ตัวเองพร้อมสมบูรณ์แบบแล้วค่อยเริ่ม เพราะแผนธุรกิจที่ดีมักจะถูกปรับไปเรื่อยๆ ตามสถานการณ์เสมอครับ ไม่มีใครเขียนแผนออกมาครั้งเดียวแล้วใช้ได้ตลอดชีวิต เราแค่ต้องเริ่มต้นจากสิ่งที่เรารู้ตอนนี้ แล้วเดินต่อไปพร้อมกับการเรียนรู้ และแก้ไขให้ดีขึ้นครับ ผมเชื่อว่าถ้าคุณลงมือวางแผนวันนี้ แม้เพียงเล็กน้อย อีกไม่นานคุณจะกลายเป็นคนที่มั่นใจในทิศทางธุรกิจของตัวเองแบบที่ไม่ต้องพึ่งโชคอีกต่อไปเลยนะครับ

อยากทักทายหรือสอบถาม ก็ทักไลน์มาคุยกับผมได้เลยนะครับ ^^

ดี้ LandyCourse