ทำไมโค้ชมืออาชีพต้องมีเว็บไซต์? 4 เหตุผลที่ช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือ!
ในยุคที่ทุกอย่างเปลี่ยนไปสู่โลกดิจิทัล โค้ชมืออาชีพไม่สามารถพึ่งพาแค่โซเชียลมีเดียหรือคำบอกเล่าปากต่อปากเพื่อสร้างตัวตนและความน่าเชื่อถือได้อีกต่อไปนะครับ เว็บไซต์จึงกลายเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยให้โค้ชสามารถแสดงความเชี่ยวชาญ สร้างแบรนด์ และเข้าถึงลูกค้าได้ตลอดเวลา เมื่อมีเว็บไซต์ของตัวเอง โค้ชสามารถนำเสนอข้อมูลบริการ รีวิวจากลูกค้า และบทความให้ความรู้เพื่อเสริมสร้างความน่าเชื่อถืออย่างมืออาชีพ ซึ่งเป็นสิ่งที่โซเชียลมีเดียเพียงอย่างเดียวทำไม่ได้
โค้ชมืออาชีพยุคดิจิทัล: ทำไม “เว็บไซต์” ถึงสำคัญกว่าที่คิด?
เว็บไซต์เป็นมากกว่าการมีหน้าโปรไฟล์ออนไลน์ แต่เป็นตัวช่วยที่ทำให้โค้ชสามารถแสดงตัวตนได้อย่างชัดเจนและเป็นมืออาชีพ เมื่อเปรียบเทียบระหว่างโค้ชที่มีเว็บไซต์กับโค้ชที่ใช้แค่โซเชียลมีเดีย ความแตกต่างในเรื่องของภาพลักษณ์นั้นชัดเจนมากนะครับ เว็บไซต์ช่วยให้โค้ชสามารถควบคุมภาพลักษณ์ของตัวเองได้เต็มที่ ตั้งแต่สีสัน โลโก้ ไปจนถึงเนื้อหาที่เผยแพร่ ซึ่งช่วยเสริม Personal Branding ให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น
อีกทั้งเว็บไซต์ยังช่วยให้โค้ชสามารถกำหนดกลยุทธ์ทางการตลาดของตัวเองได้ เช่น การใช้ SEO เพื่อให้ติดอันดับการค้นหาใน Google หรือการใช้ระบบเก็บอีเมลเพื่อติดตามลูกค้าในระยะยาว สิ่งเหล่านี้ช่วยให้โค้ชสามารถขยายฐานลูกค้าได้โดยไม่ต้องเสียค่าโฆษณามากมายครับ
โค้ชที่มีเว็บไซต์จึงมีความน่าเชื่อถือมากกว่าในสายตาของลูกค้า ซึ่งอาจส่งผลต่อโอกาสทางธุรกิจในระยะยาวนะครับ
เว็บไซต์ช่วยสร้างแบรนด์โค้ชให้เป็นที่จดจำได้อย่างไร?
การสร้าง Personal Branding สำหรับโค้ชมืออาชีพเป็นสิ่งสำคัญมากนะครับ เพราะมันช่วยให้ลูกค้าจดจำและเชื่อมั่นในตัวคุณ การมี เว็บไซต์โค้ช เป็นของตัวเองทำให้คุณสามารถกำหนดภาพลักษณ์และสื่อสารเอกลักษณ์ของตัวเองได้อย่างเต็มที่ โค้ชที่มีแบรนด์ที่แข็งแกร่งจะสามารถดึงดูดลูกค้าได้ง่ายขึ้น สร้างความไว้วางใจ และเพิ่มโอกาสในการขยายธุรกิจของตัวเองอย่างมั่นคง ลองมาดูกันครับว่า องค์ประกอบสำคัญของการสร้างแบรนด์ผ่านเว็บไซต์มีอะไรบ้าง
- เว็บไซต์คือศูนย์กลางของแบรนด์ (Branding Hub) – เว็บไซต์เป็น “บ้านหลัก” สำหรับโค้ช ที่ใช้เป็นแหล่งรวมทุกอย่างเกี่ยวกับตัวคุณ ไม่ว่าจะเป็นประวัติการทำงาน คำแนะนำ รีวิวจากลูกค้า และคอร์สออนไลน์
- การออกแบบที่สะท้อนตัวตน (Visual Identity) – สี โลโก้ และดีไซน์ของเว็บไซต์ควรสอดคล้องกับบุคลิกและแนวคิดของคุณ เพื่อให้ลูกค้าจดจำได้ง่าย
- เนื้อหาที่ให้คุณค่า (Value-Driven Content) – การมีบล็อกที่ให้ความรู้ บทความเชิงลึก หรือวิดีโอช่วยสร้างภาพลักษณ์ความเป็นผู้เชี่ยวชาญ และเพิ่มความน่าเชื่อถือ
- SEO ช่วยให้ลูกค้าเจอคุณง่ายขึ้น – เว็บไซต์ที่มี SEO ดีๆ ทำให้ลูกค้าสามารถค้นหาโค้ชได้ผ่าน Google ช่วยเพิ่มโอกาสในการได้ลูกค้าใหม่
- รีวิวและ Testimonial สร้างความไว้วางใจ – คำแนะนำจากลูกค้าเก่าเป็นหนึ่งในเครื่องมือที่ทรงพลังที่สุดที่ช่วยให้ลูกค้าใหม่ตัดสินใจใช้บริการของคุณ
- ระบบจองคิวอัตโนมัติช่วยให้สะดวกขึ้น – ลูกค้าสามารถจองเวลานัดหมายได้โดยตรงจากเว็บไซต์ ลดภาระในการตอบข้อความเอง
- Lead Magnet และ Email Marketing – การให้ของฟรี เช่น E-book หรือ Mini Course เพื่อเก็บข้อมูลลูกค้า แล้วใช้ Email Marketing ในการสื่อสารและติดตามผล
- การใช้ Social Proof และ Case Study – การแสดงผลงานที่เคยช่วยลูกค้าสำเร็จช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือ และสร้างการจดจำที่ดีขึ้น
- การใช้ Funnel Marketing เพื่อเพิ่ม Conversion – การออกแบบเว็บไซต์ให้พาผู้เข้าชมไปยังจุดหมายที่ต้องการ เช่น หน้าสมัครเรียน หรือหน้าให้คำปรึกษา
- การปรับแต่ง UX/UI ให้ใช้งานง่าย – เว็บไซต์ที่ใช้งานง่าย (User-Friendly) ทำให้ลูกค้ารู้สึกดีและเพิ่มโอกาสในการตัดสินใจใช้บริการของคุณครับ
หากโค้ชต้องการสร้างแบรนด์ที่แข็งแกร่ง เว็บไซต์คือเครื่องมือที่ขาดไม่ได้เลยครับ การออกแบบเว็บไซต์ให้เหมาะสม สร้างเนื้อหาที่มีคุณค่า และใช้เทคนิคการตลาดออนไลน์ให้ถูกต้อง จะช่วยให้แบรนด์ของคุณเป็นที่จดจำ และกลายเป็นตัวเลือกอันดับแรกในสายตาลูกค้าครับ
ความน่าเชื่อถือเริ่มต้นจาก “ออนไลน์” – ลูกค้าตัดสินใจจากอะไร?
พฤติกรรมของลูกค้าในยุคดิจิทัลเปลี่ยนไปมากครับ ปัจจุบันลูกค้ามักจะค้นหาข้อมูลของโค้ชจากอินเทอร์เน็ตก่อนตัดสินใจใช้บริการ และเว็บไซต์เป็นสิ่งแรกๆ ที่พวกเขาจะพิจารณา หากโค้ชไม่มีเว็บไซต์ ลูกค้าอาจมองว่าไม่มีตัวตนหรือไม่เป็นมืออาชีพพอ ซึ่งอาจทำให้พวกเขาเลือกใช้บริการจากโค้ชที่มีเว็บไซต์แทน
นอกจากนี้ เว็บไซต์ยังเป็นสถานที่ที่ลูกค้าสามารถเข้ามาอ่านบทความ ศึกษาแนวคิด และทำความเข้าใจแนวทางการโค้ชของเราได้แบบละเอียด เว็บไซต์ที่มีเนื้อหาคุณภาพสูง จะช่วยให้ลูกค้ารู้สึกมั่นใจและไว้วางใจในตัวโค้ชมากขึ้นนะครับ ยิ่งถ้าเว็บไซต์มีรีวิวจากลูกค้าเก่า มีตัวอย่างเคสสตัสดี้ และมีการแสดงประสบการณ์ที่ผ่านมาก็จะช่วยให้การตัดสินใจของลูกค้ารวดเร็วขึ้น
บางครั้งลูกค้าอาจตัดสินใจเลือกโค้ชจากความน่าเชื่อถือของเว็บไซต์มากกว่าชื่อเสียงส่วนตัวด้วยซ้ำไป เพราะโลกออนไลน์เต็มไปด้วยตัวเลือก และคนที่ดู “เป็นมืออาชีพ” ผ่านเว็บไซต์มักได้รับความสนใจมากกว่านะครับ
การมีเว็บไซต์ช่วยโค้ชสร้าง “โอกาสใหม่ๆ” ได้อย่างไร?
เว็บไซต์ไม่ใช่แค่เครื่องมือสร้างความน่าเชื่อถือ แต่ยังเป็นแพลตฟอร์มที่เปิดโอกาสใหม่ๆ ให้กับโค้ชครับ ไม่ว่าจะเป็นการขยายฐานลูกค้าผ่าน SEO การสร้าง Lead Generation ด้วยแบบฟอร์มสมัครสมาชิก หรือการเปิดช่องทางรายได้ใหม่ๆ อย่างการขายคอร์สออนไลน์ การให้คำปรึกษาแบบ 1:1 และการสร้างเนื้อหาให้ความรู้ที่ดึงดูดลูกค้า
การมีเว็บไซต์ยังช่วยให้โค้ชสามารถเข้าร่วมงานสัมมนาหรือเป็นวิทยากรได้ง่ายขึ้น เพราะเมื่อลูกค้าองค์กรต้องการเชิญโค้ชไปพูด พวกเขามักจะดูเว็บไซต์เป็นหลัก หากโค้ชมีเว็บไซต์ที่นำเสนอข้อมูลครบถ้วนเกี่ยวกับผลงานและความเชี่ยวชาญ ก็มีโอกาสได้รับเชิญให้ไปเป็น Speaker มากขึ้นนะครับ
โค้ชที่มีเว็บไซต์ยังสามารถสร้างพาร์ทเนอร์ทางธุรกิจได้ง่ายขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการร่วมมือกับแพลตฟอร์มที่สอนออนไลน์ หรือการทำงานร่วมกับโค้ชคนอื่นเพื่อจัดโปรแกรมการสอนที่ใหญ่ขึ้น เว็บไซต์จึงเป็นเครื่องมือที่ช่วยสร้างโอกาสใหม่ๆ ให้กับโค้ชได้มากกว่าที่คิดครับ
โค้ชที่มีเว็บไซต์ VS ไม่มีเว็บไซต์ – ผลลัพธ์ที่แตกต่างกันชัดเจน!
โค้ชที่มีเว็บไซต์กับโค้ชที่ไม่มีเว็บไซต์ อาจให้บริการที่เหมือนกันนะครับ แต่ในสายตาของลูกค้า ผลลัพธ์ของทั้งสองกลุ่มนี้แตกต่างกันมาก การมีเว็บไซต์ช่วยให้โค้ชสามารถแสดงตัวตนที่น่าเชื่อถือได้ตลอดเวลา ในขณะที่โค้ชที่ไม่มีเว็บไซต์มักต้องพึ่งพาโซเชียลมีเดีย ซึ่งมีข้อจำกัดเรื่องอัลกอริธึมและการมองเห็น
เว็บไซต์ช่วยให้โค้ชสามารถสร้างระบบติดตามลูกค้าได้อย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นการเก็บอีเมล การทำ SEO หรือการสร้างเนื้อหาที่ดึงดูดลูกค้าเข้ามาเอง ในขณะที่โค้ชที่ไม่มีเว็บไซต์ต้องวิ่งหาลูกค้าใหม่อยู่ตลอดเวลา และอาจเสียโอกาสทางธุรกิจไปอย่างน่าเสียดายครับ
อีกหนึ่งข้อแตกต่างที่เห็นได้ชัดคือ ความมั่นใจของลูกค้า โค้ชที่มีเว็บไซต์สามารถใส่รีวิว ประวัติการทำงาน และผลงานที่ผ่านมาได้แบบละเอียด ลูกค้าจึงรู้สึกมั่นใจและตัดสินใจจ้างง่ายขึ้นนะครับ
เว็บไซต์ช่วยให้โค้ชทำเงินได้อย่างไร?
โค้ชที่มีเว็บไซต์สามารถสร้างแหล่งรายได้ที่มั่นคงได้หลายทางนะครับ ไม่ใช่แค่การให้คำปรึกษาหรือจัดสัมมนาเท่านั้น แต่เว็บไซต์ยังช่วยให้โค้ชสามารถขายคอร์สออนไลน์ สร้างระบบสมาชิก และใช้กลยุทธ์ Funnel Marketing เพื่อเพิ่มยอดขายแบบอัตโนมัติ
ตัวอย่างเช่น ถ้าโค้ชเปิดคอร์สออนไลน์ ลูกค้าสามารถสมัครเรียนได้ตลอดเวลาโดยไม่ต้องรอโค้ชเปิดรอบใหม่ ซึ่งช่วยให้โค้ชสามารถทำรายได้แบบ Passive Income นอกจากนี้ การมีระบบจองเวลานัดหมายผ่านเว็บไซต์ยังช่วยให้โค้ชบริหารเวลาได้ดีขึ้น และลดภาระในการตอบข้อความเองครับ
นอกจากนี้ โค้ชยังสามารถสร้างเนื้อหาฟรี เช่น บล็อกหรือวิดีโอเพื่อให้ความรู้ และใช้เป็นเครื่องมือดึงดูดลูกค้าใหม่ๆ เข้ามาได้เรื่อยๆ การมีเว็บไซต์จึงเป็นการลงทุนที่คุ้มค่า เพราะช่วยให้โค้ชสามารถสร้างรายได้อย่างต่อเนื่องและยั่งยืนครับ
สร้างเว็บไซต์โค้ชอย่างไรให้ดูเป็นมืออาชีพ? 4 องค์ประกอบสำคัญที่ห้ามพลาด!
หากโค้ชอยากให้เว็บไซต์ของตัวเองดูน่าเชื่อถือและเป็นมืออาชีพ มี 4 องค์ประกอบสำคัญที่ห้ามพลาดนะครับ
หน้าแนะนำตัว (About Me) – ควรมีข้อมูลเกี่ยวกับโค้ช ประสบการณ์ และสิ่งที่ทำให้โค้ชแตกต่างจากคนอื่น
รีวิวจากลูกค้า (Testimonials) – การมีรีวิวจากลูกค้าเก่าช่วยสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้าใหม่ และเพิ่มโอกาสในการจ้างงาน
ระบบจองคิวหรือช่องทางติดต่อ (Booking & Contact Page) – ควรมีแบบฟอร์มให้ลูกค้าติดต่อได้ง่าย และสามารถจองคิวออนไลน์ได้สะดวก
บล็อกหรือคอนเทนต์ให้ความรู้ (Blog/Resources) – การสร้างบทความหรือวิดีโอให้ความรู้ช่วยให้ลูกค้าเห็นว่าโค้ชมีความเชี่ยวชาญจริง และเพิ่มโอกาสในการดึงดูดลูกค้าใหม่ๆ ครับ
โค้ชยุคใหม่ต้องมีเว็บไซต์แบบไหน? สร้างเองหรือจ้างทำดี?
หนึ่งในคำถามที่โค้ชหลายคนสงสัยก็คือ ควรสร้างเว็บไซต์เองหรือจ้างมืออาชีพทำให้? ซึ่งแต่ละทางเลือกมีข้อดีและข้อเสียที่ต่างกันครับ
ถ้าโค้ชต้องการควบคุมทุกอย่างเองและมีเวลาเรียนรู้ ระบบที่สร้างเองอาจเป็นตัวเลือกที่ดี แต่ต้องแน่ใจว่ามีทักษะพื้นฐานในการจัดการเว็บไซต์ ถ้าไม่มีประสบการณ์เลย อาจทำให้เว็บไซต์ดูไม่เป็นมืออาชีพและเสียโอกาสทางธุรกิจไปนะครับ
ในทางกลับกัน การจ้างมืออาชีพช่วยสร้างเว็บไซต์ อาจมีค่าใช้จ่ายสูงขึ้น แต่ช่วยให้โค้ชได้เว็บไซต์ที่ดูดี ใช้งานง่าย และพร้อมใช้งานทันที ซึ่งเหมาะสำหรับโค้ชที่ต้องการเน้นไปที่การให้บริการมากกว่าการมานั่งแก้ไขเว็บไซต์เองครับ
ไม่ว่าจะเลือกวิธีไหน สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ เว็บไซต์ต้องสะท้อนความเป็นตัวตนของโค้ช และช่วยให้ลูกค้าตัดสินใจเลือกใช้บริการได้ง่ายขึ้นนะครับ
กุญแจสู่ความสำเร็จ (Key to Success)
ถ้าโค้ชมืออาชีพอยากสร้างแบรนด์ให้แข็งแกร่งและเพิ่มความน่าเชื่อถือ เว็บไซต์คือกุญแจสำคัญที่ช่วยเปิดประตูสู่โอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ นะครับ ไม่ว่าจะเป็นการทำให้ลูกค้าเชื่อถือ การสร้างแหล่งรายได้ใหม่ หรือการขยายฐานลูกค้าผ่านออนไลน์ เช็คลิสต์ต่อไปนี้คือสิ่งที่โค้ชทุกคนต้องมีเพื่อให้เว็บไซต์ทำงานได้อย่างทรงพลังครับ
- เว็บไซต์ช่วยสร้างความน่าเชื่อถือ – โค้ชที่มีเว็บไซต์ดูเป็นมืออาชีพมากกว่า เพิ่มโอกาสในการได้งานและสร้างภาพลักษณ์ที่มั่นคง
- Personal Branding สำคัญมาก – เว็บไซต์ช่วยให้โค้ชควบคุมภาพลักษณ์และสื่อสารจุดเด่นของตัวเองได้ชัดเจน
- SEO ทำให้ลูกค้าเจอเราเอง – การมีเว็บไซต์ที่ปรับแต่ง SEO ดีๆ ทำให้ลูกค้าค้นหาเราเจอผ่าน Google โดยไม่ต้องเสียเงินโฆษณาตลอด
- รีวิวจากลูกค้าคือตัวช่วยตัดสินใจ – เว็บไซต์ที่มีรีวิวและคำชมจากลูกค้าเก่าช่วยให้ลูกค้าใหม่ตัดสินใจใช้บริการง่ายขึ้น
- สร้างรายได้ผ่านเว็บไซต์ – ไม่ว่าจะเป็นการขายคอร์สออนไลน์ การให้คำปรึกษาแบบ 1:1 หรือการสร้าง Membership ทุกอย่างสามารถทำได้ผ่านเว็บไซต์
- ระบบจองคิวอัตโนมัติช่วยให้ชีวิตง่ายขึ้น – การตั้งระบบจองเวลาผ่านเว็บไซต์ช่วยลดภาระการตอบแชทและทำให้ลูกค้าจองสะดวกขึ้น
- บล็อกหรือวิดีโอให้ความรู้ช่วยดึงดูดลูกค้า – การสร้างคอนเทนต์ที่มีประโยชน์ช่วยให้ลูกค้าเห็นว่าโค้ชมีความเชี่ยวชาญจริง และเพิ่มโอกาสในการขยายฐานลูกค้า
- การมีเว็บไซต์ช่วยสร้างโอกาสใหม่ๆ – โค้ชที่มีเว็บไซต์สามารถขยายโอกาสไปสู่การเป็นวิทยากร การทำพาร์ทเนอร์ และการเข้าถึงลูกค้าองค์กรได้ง่ายขึ้น
- โค้ชที่ไม่มีเว็บไซต์พลาดโอกาสไปมาก – ในยุคดิจิทัล ลูกค้าส่วนใหญ่เช็คข้อมูลจากออนไลน์ก่อนตัดสินใจ หากไม่มีเว็บไซต์ อาจเสียโอกาสให้คู่แข่งที่ดูเป็นมืออาชีพกว่า
หากโค้ชต้องการเติบโตในยุคดิจิทัล เว็บไซต์ไม่ใช่แค่ตัวเลือก แต่เป็นเครื่องมือที่ขาดไม่ได้ครับ การมีเว็บไซต์ช่วยให้โค้ชสามารถสร้างแบรนด์ เพิ่มความน่าเชื่อถือ และเปิดโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ ได้อย่างมั่นคงและยั่งยืนครับ
คำแนะนำสุดท้ายจากผม ดี้ LandyCourse
ผมอยากให้โค้ชทุกคนที่กำลังอ่านบทความนี้ลองย้อนคิดดูนะครับว่า ตอนนี้คุณมีพื้นที่ออนไลน์ของตัวเองที่สามารถควบคุมได้จริงๆ หรือเปล่า? ทุกวันนี้โลกออนไลน์หมุนไปไวมาก โค้ชที่พึ่งพาแต่โซเชียลมีเดียเพียงอย่างเดียว อาจกำลังเจอกับความไม่แน่นอนของอัลกอริธึม หรือแม้กระทั่งการที่แพลตฟอร์มเปลี่ยนนโยบายจนทำให้เข้าถึงลูกค้าได้ยากขึ้น การมี เว็บไซต์โค้ช เป็นของตัวเองไม่ใช่แค่ทางเลือกอีกต่อไป แต่มันคือเครื่องมือที่ช่วยสร้างความมั่นคงในระยะยาวครับ
เว็บไซต์ไม่ใช่แค่ที่ให้ลูกค้าค้นหาคุณเจอ แต่มันเป็นพื้นที่ที่คุณสามารถสื่อสารถึงความเชี่ยวชาญและตัวตนของคุณได้เต็มที่ เมื่อคุณมี Personal Branding ที่ชัดเจนผ่านเว็บไซต์ ลูกค้าจะสามารถเข้ามาเรียนรู้เกี่ยวกับแนวทางของคุณ เข้าใจปรัชญาการโค้ชของคุณ และสำรวจรีวิวจากผู้ที่เคยใช้บริการจริง การมีเว็บไซต์ที่ออกแบบมาดี พร้อมเนื้อหาที่ช่วยให้ความรู้ จะทำให้คุณแตกต่างจากโค้ชคนอื่นๆ ที่อาจยังใช้แค่โซเชียลมีเดียเป็นหลัก และนี่คือจุดที่ทำให้ลูกค้ารู้สึกมั่นใจมากขึ้นในการเลือกคุณเป็นโค้ชครับ
อีกสิ่งหนึ่งที่สำคัญคือ เว็บไซต์ไม่ได้เป็นเพียงเครื่องมือสร้างภาพลักษณ์ แต่มันยังช่วยให้โค้ชสามารถ สร้างรายได้ ได้หลากหลายช่องทาง ไม่ว่าจะเป็นการขายคอร์สออนไลน์ การให้คำปรึกษาผ่านระบบจองเวลานัดหมาย หรือการใช้บล็อกเพื่อดึงดูดลูกค้าใหม่ๆ ผ่าน SEO สิ่งเหล่านี้ช่วยให้โค้ชไม่ต้องวิ่งหาลูกค้าตลอดเวลา แต่สร้างระบบที่ทำให้ลูกค้าเข้ามาหาโค้ชเองอย่างต่อเนื่อง หากคุณมีระบบที่ช่วยให้ลูกค้าสามารถเข้าถึงบริการของคุณได้ง่าย และสะดวก โอกาสในการขยายฐานลูกค้าและสร้างรายได้แบบอัตโนมัติก็จะสูงขึ้นครับ
ผมมักจะบอกกับโค้ชที่เข้ามาปรึกษาว่า ถ้าคุณอยากเป็นโค้ชมืออาชีพจริงๆ เว็บไซต์คือ “ออฟฟิศออนไลน์” ของคุณ อย่าปล่อยให้ตัวเองอยู่ในสถานะที่ต้องพึ่งพาช่องทางที่คุณควบคุมไม่ได้ตลอดเวลา ลงทุนกับเว็บไซต์ให้เป็นพื้นที่ที่สะท้อนตัวตนของคุณ และใช้มันเป็นช่องทางหลักในการเชื่อมต่อกับลูกค้า เมื่อคุณมีเว็บไซต์ที่แข็งแกร่ง ไม่ว่าคุณจะทำอะไรบนโซเชียล ลูกค้าก็สามารถตามกลับมาที่เว็บไซต์ของคุณเพื่อทำความรู้จักและเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับคุณได้เสมอครับ
สุดท้ายนี้ ถ้าคุณยังลังเลว่าควรเริ่มจากตรงไหน ผมแนะนำว่าให้เริ่มจากการสร้างเว็บไซต์ที่เรียบง่ายแต่มีคุณค่า ให้มันเป็นแหล่งข้อมูลที่ลูกค้าของคุณสามารถเข้ามาค้นหาสิ่งที่เป็นประโยชน์ได้เสมอ แล้วพัฒนามันไปเรื่อยๆ ตามการเติบโตของธุรกิจคุณ ผมเชื่อว่าถ้าคุณตั้งใจทำมันให้ดี เว็บไซต์จะกลายเป็นทรัพย์สินที่ช่วยคุณได้ในระยะยาว และเปิดโอกาสให้คุณสามารถเติบโตไปได้ไกลกว่าที่คุณคิดครับ
อยากทักทายหรือสอบถาม ก็ทักไลน์มาคุยกับผมได้เลยนะครับ ^^
ดี้ LandyCourse